ส่งท้ายไตรมาสที่ 3 ด้วยความแปลกใหม่เมื่อ MONOWHEEL ทำการเปิดตัว Ninebot KickScooter D Series สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจาก Segway-Ninebot ที่ตอบโจทย์กับคนทุกเพศทุกวัยด้วยราคาที่ไม่แพงและสเปคที่ไม่ตก โดยซีรีส์นี้มีมาให้เลือกกันทั้งหมด 2 รุ่น คือ D18W และ D38U และวันนี้เราจะมารีวิว Ninebot D38U กัน
ภาพจำที่แตกต่างจากสีที่โดดเด่น
ด้วยดีไซน์ที่คลายคลึงกัน หลายคนเห็นเจ้า D Series ครั้งแรกอาจจะให้ความรู้สึกเหมือนเจ้า F Series แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าใครจำภาพได้ F Series แต่ละรุ่นจะแตกต่างที่สีของสายไฟและลายที่ล้อ แต่ซีรีส์นี้เล่นใหญ่กว่า เพราะซีรีส์นี้มีสีที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นโดยรุ่น D38U มาในสีแดงสด (Bright Red) ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต ร้อนแรง
.webp)
.webp)
มั่นคงกว่าเดิมด้วยล็อกคอแบบใหม่
สำหรับล็อกคอของ D38U ถูกพัฒนาใหม่ให้กลายเป็นการล็อกแบบสองชั้น หากเทียบกับ F Series ซีรีส์นี้จะไม่มีเกลียวล็อกแบบที่ F Series มี แต่จะเป็นการดึงสลักขึ้นแล้วค่อยดึงที่ล็อกออก พอดึงที่ล็อกลงมามันจะค้างอยู่ครึ่งนึง ตัวคอจะยังไม่สามารถพับลงมาได้ ต้องดึงสลักแล้วดึงที่ล็อกลงมาอีกทีนึงตัวคอถึงจะพับมาได้ ทำให้ปลอดภัยกว่าเดิมมาก
.webp)
คุ้มค่าแต่ไม่ช้ากว่าเดิม
D Series เข้ามาในราคาที่ถูกลงแต่ยังคงความเร็วไว้อย่างมาตรฐานและแน่นอนว่าคอนเซปต์ระยะทางวิ่งตามชื่อรุ่นยังคงถูกนำมาใช้กับซีรีส์นี้ โดย D38U มีกำลังมอเตอร์สูงสุดถึง 700 วัตต์ทำให้วิ่งในความเร็วสูงสุดได้ที่ 30 กม/ชม.และวิ่งได้ 38 กม.ต่อหนึ่งชาร์จ
ความแข็งแรงที่คุ้นเคย
Ninebot KickScooter D Series ยังใช้วัสดุโครงอะลูมิเนียมเกรด Aviation เช่นเดียวกันกับ F Series ทำให้ตัวเครื่องยังคงความแข็งแรงและน้ำหนักเบาไว้ดังเดิมโดย D38U มีน้ำหนักอยู่ที่ 16.4 กก. ด้วยน้ำหนักที่เบาทำให้การยกไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน
.webp)
หน้าจอฟีเจอร์ครบจบในจอเดียว
หน้าจอแสดงผลของรุ่นนี้ยังคงบอกรายละเอียดอย่างครบถ้วนไม่ว่างจะเป็นโหมดและความเร็วขณะขับ หลอดแบตเตอรี่ (ทั้งหมด 5 หลอด) สัญลักษณ์เปิด-ปิดไฟ สัญลักษณ์เตือนอุณหภูมิที่สูงเกินไป สัญลักษณ์ Error เมื่อเกิดความผิดปกติกับตัวเครื่อง และในขณะที่ชาร์จจะมีการบอกปริมาณแบตเตอรี่ขณะนั้นด้วย ส่วนการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot ยังคงมีฟีเจอร์ให้เล่นมากมายดังเดิม เช่น การบันทึกระยะทาง โหมดล็อกตัวสกู๊ตเตอร์ที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีคนมาเข็น โหมดประจำรุ่นอย่าง Walk Mode หรือ Cruise Control
.webp)
ช่วงล่างที่ปรับเปลี่ยน
แท่นเหยียบของ D Series ทั้งสองรุ่นมีขนาดประมาณ 17 นิ้ว ใหญ่เท่ากับ F Series แต่มีลวดลายที่ต่างออกไป โครงที่ใช้ล้อมรอบแท่นเหยียบทำจากอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานทำให้มีความทนทานแต่มีน้ำหนักเบา ใต้แท่นเหยียบหุ้มด้วยเหล็ก และมีความสูงห่างจากพื้น 9 ซม. เพื่อป้องกันการครูดจากการขับบนทางขรุขระหรือทางต่างระดับ
.webp)
ฟีลขับที่นุ่มนวลกว่าเดิม
ยางของซีรีส์นี้ทั้งล้อหน้าและล้อหลังยังเป็นยางลม Pneumatic Tires ขนาด 10 นิ้วทำให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล แต่ว่าซีรีส์นี้มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวยางมีการพัฒนาโครงสร้างให้มีความแข็งแรงและทนทานขึ้นและมีมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนอยู่ที่ล้อหน้า
.webp)
การผสมผสานของเบรกที่ลงตัว
ส่วนเบรกซีรีส์นี้มาในการผสมผสานแบบใหม่จากเบรกไฟฟ้าจากล้อหน้าเหมือนกับ F Series แต่ล้อหลังของ D Series จะเป็นดรัมเบรกจากล้อหลัง ซึ่งรวมกันได้อย่างลงตัว ส่วนวิธีการพับของซีรีส์นี้ยังคงเป็นพับข้างแบบเดียวกันกับ F Series และ MAX แต่ด้วยความที่เป็นมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้โมเมนตั้มในขณะยกออกมาโอเคและไม่มีน้ำหนักถ่วงที่ด้านหลัง
.webp)
ปลอดภัยทั้งหน้าและหลัง กลางวันและกลางคืน
ทั้ง D18W และ D38U ยังคงมีทั้งไฟหน้าที่ส่องสว่างไกลกว่า 13 เมตร และไฟเบรกที่คอยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ เพียงบีบเบรกแค่นิดเดียวตัวไฟเบรกจะกระพริบทันที ตอกย้ำความปลอดภัยไปอีก
.webp)
.webp)
มาตรฐานกันน้ำ
ในส่วนของมาตรฐานสำหรับซีรีส์นี้ปลอดภัยหายห่วงเพราะมีทั้งมาตรฐาน IP และมาตรฐาน UL IPX ซีรีส์นี้มาในระบบ IPX5 (เช่นเดียวกับ F Series และ MAX ) และในส่วนของตัวแบตเตอรี่นั้นพิเศษกว่า เพราะได้รับมาตรฐาน IPX7 ซึ่งสูงกว่า เพราะฉะนั้นการขับลุยน้ำขังและการขับในขณะที่ฝนปรอยไม่ใช่ปัญหาและเพื่อความปลอดภัยพัก
หลายคนอาจจะสงสัยและไม่เคยได้ยินว่ามาตรฐาน UL คืออะไร มาตรฐาน UL คือมาตรฐานที่ใช้วัดและทดสอบความปลอดภัยของตัวเครื่องและแบตเตอรี่ ซึ่ง D Series ทั้งสองรุ่นรับประกันความปลอดภัยขแงแบตเตอรี่ด้วยมาตรฐาน UL - 2271 ซึ่งการที่แบตเตอรี่ผ่านมาตรฐานนี้ จะเป็นการการันตีว่าแบตเตอรี่จะไม่ไฟรั่ว ไม่ช็อต ไม่ติดไฟ ไม่เกิดปัญหาจากการชาร์จค้างไว้หรือการไม่ชาร์จเป็นเวลานาน และนอกจากมีการทดสอบตามมาตรฐานของแบบตเตอรี่แล้ว ตัวเครื่องยังผ่านการทดสอบ UL - 2272 อีกด้วย
.webp)
ชาร์จ 1 ครั้ง ค่าไฟเท่าไหร่ ?
หนึ่งคำถามที่มีเข้ามามากที่สุดคือค่าไฟต่อชาร์จครั้งนึงคือเท่าไหร่ ? เราเลยได้มีการคำนวนราคาค่าไฟต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (จากแบตเตอรี่ 0% - 100%) มาให้ดูกัน โดยคำนวณอ้างอิงจากค่าไฟหน่วยละ 4 บาท ผลที่ออกมาคือ และค่าไฟต่อการชาร์จ 1 ครั้งของ D38U จะอยู่ที่ประมาณ 10 บาทเท่านั้น
.webp)
ความรู้สึกหลังขับ
เล่าถึงฟีลการขับ ฟีลขับเผิน ๆ จะคล้ายกับ F Series แต่ถ้าขับไปมาก ๆ จะสัมผัสได้ว่าแน่นกว่า ด้วยความที่ล้อมันมีการพัฒนามาให้แข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้นเลยทำให้เห็นผลตรงนี้ได้ และในส่วนของขับทางขรุขระความนุ่มของล้อซับแรงกระแทกได้ดีเลยไม่หัวโยก ส่วนขับลุยน้ำขัง ตัวบังโคลนยังทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม อีกส่วนที่น่าสนใจคือในคู่มือจากที่ทาง Segway-Ninebot D38U ขึ้นทางชันได้ประมาณ 20% แต่จากที่ลอง Test ดู สามารถขึ้นทางที่ชันที่คู่มือบอกได้ แต่ ECO จะลำบากหน่อยถ้าไม่มีแรงส่ง ส่วน Standard และ Sport ถ้ามีแรงส่ง ขึ้นทางที่ชันกว่าเดิมได้เยอะเลย
.webp)
สนุกมากขึ้นด้วยแอปพลิเคชั่น
ภายในแอปมีฟีเจอร์ให้เล่นมากมาย แต่มีจุดหนึ่งที่ไม่เหมือนกันนั่นคือโหมดการขับขี่นั่นเอง ถือเป็นจุดต่างของแต่ละรุ่น
- ภายในแอปพลิเคชั่น Regenerative Brake เป็นโหมดที่จะช่วยปั่นไฟเข้าเครื่อง โดยหากเราเปิดโหมดนี้ เวลาที่เราปล่อยคันเร่ง ตัวมอเตอร์จะหน่วงลงอัตโนมัติเพื่อให้มอเตอร์ปั่นไฟกลับเข้าเครื่อง โดยสามารถเลือกความหน่วงได้ 3 ระดับคือ Weak, Medium, Strong
- เพิ่มเติมความปลอดภัยได้ด้วยตัวเองกับ Lock Mode หรือ Safety Mode เป็นโหมดสำหรับกันขโมยซึ่งถ้าเราเปิดโหมดนี้ไว้แล้วมีคนมาเข็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเรา ตัวเครื่องจะร้องทันทีและจะส่งข้อความไปยังมือถือ ซึ่งขณะที่เปิดโหมดนี้อยู่ ตัวเครื่องจะไม่สามารถกดปิดได้ ถือว่าจำเป็นมาก ๆ
- ทุกการเดินทางจะอยู่ในความทรงจำแน่นอนเพราะในแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot มีฟังก์ชั่นสำหรับเก็บระยะการเดินทาง และยังบอกเส้นทางที่เราขับขี่ได้ด้วย (แต่ต้องขั้นต่ำ 200 เมตร)
ขับขี่อย่างสบายใจด้วยบริการจากเรา
ความหายห่วงอย่างสุดท้ายคือ Ninebot KickScooter D Series มาพร้อม MONOWHEEL Warranty หรือประกันจากเรานั่นเอง โดยซีรีส์นี้มีประกันมอเตอร์ 2 ปี และประกันแบตเตอรี่ 1 ปี และหลังจากหมดประกันยังสามารถนำสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาตรวจเช็กสภาพได้ตลอดเวลา ทีมช่างของเราพร้อมบริการเสมอครับ

จุดเริ่มต้นที่ดี
Ninebot KickScooter D Series เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครที่อยากหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสักคันไว้ใช้ขับ ด้วยระยะทางขับต่อชาร์จที่ 38 กม. ทำให้สามารถเลือกระยะทางที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ และจุดเด่นที่เรียกว่าตอบโจทย์ที่สุดเลยคือ ‘ราคา’ เพราะเป็นซีรีส์ที่ทำราคาออกให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นมาก ส่วน D38U ราคาอยู่ที่ 23,900.- บาท และยังร่วมกับโปรโมชั่นผ่อน 0% 10 เดือนด้วย