ตอบคำถาม หาข้อเปรียบเทียบ Ninebot D18W VS Ninebot D38U มีอะไรที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันบ้าง

ด้วยเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยมหลังจากการเปิดตัว Ninebot D Series ทั้ง 2 รุ่น Ninebot D18W และ Ninebot D38U ทำให้เกิดคำถามจากหลาย ๆ ท่านว่า 2 รุ่นนี้แตกต่างกันอย่างไร ด้วยราคาเปิดตัวที่ต่างกันถึง 7,000 บาท (Ninebot D18W 16,900 บาท และ Ninebot D38U 23,900 บาท)

ในบทความนี้จะพามาลองเทียบกันเลยว่ารุ่นสองรุ่นนี้แตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใครอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

ดีไซน์ภายนอก

สำหรับจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันนั่นก็คือเรื่องสีของตัวเครื่องโดย Ninebot D18W มาในสีเทาด้าน Matte Gray ส่วน Ninebot D38U มากับสีแดงสด Bright Red

นอกเหนือจากเรื่องของสีเครื่องแล้วดีไซน์ภายนอกของทั้ง 2 รุ่นเรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันเลย ทั้ง Dashboard โดยรวม ขนาดของตัวสกู๊ตเตอร์ที่มีขนาดเท่ากันทั้งตอนที่กางใช้งานและขณะที่พับเก็บรวมถึงล้อยางลมขนาด 10 นิ้ว

การล็อกคอสกู๊ตเตอร์

สำหรับ Ninebot D18W มาพร้อมล็อกคอ 2 ชั้นแบบตะขอเกลียวที่มีอยู่ในNinebot F Series แต่ Ninebot D38U มีการออกแบบตัวล็อกคอแบบใหม่ให้ปลดล็อกได้ง่ายขึ้นแต่ยังคงความแข็งแรงไว้อยู่ โดยจะเป็นล็อก 3 ชั้น รูปแบบใหม่ที่มีวัสดุเป็นเหล็กปรับปรุงจากล็อกคอของ Ninebot F Series ที่มีส่วนประกอบของพลาสติก เมื่อมีการใช้งานล็อกคอที่ไม่ถูกต้องจะทำให้ตัวล็อกชั้นที่ 2 แตกหักได้ง่าย ซึ่งล็อกคอของ Ninebot D38U ได้ตัดปัญหานี้ออกไปได้ด้วยระบบล็อกแบบใหม่

และการล็อกคอของ Ninebot D38U ยังสามารถจับตั้งคอได้ทันทีด้วยมือเดียวโดยไม่ต้องใช้มืออีกข้างประคองตัวคอสกู๊ตเตอร์ แต่สำหรับ Ninebot D18W เวลาที่จะตั้งคอ จะต้องใช้สองมือ โดยมือข้างหนึ่งจะต้องประคองคอไม่ให้ตกลงมาและใช้มืออีกข้างหนึ่งใส่ล็อกคอให้เรียบร้อย จึงจะปล่อยมือได้

ไฟส่องสว่าง

Ninebot D Series ทั้ง 2 รุ่นยังคงให้ไฟหน้าที่สว่างเท่ากับตัว Ninebot F Series สามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 13.5 เมตร แต่พิเศษยิ่งกว่าด้วยไฟท้ายของ Ninebot D38U ที่มีขนาดใหญ่ และสว่างกว่าเดิม ตามมาตรฐาน E-Mark จากสหภาพยุโรปเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน

วัสดุ

แม้ว่า Ninebot D Series จะเปิดตัวมาเป็นสกู๊ตเตอร์รุ่นราคาประหยัด เข้าถึงง่าย แต่ก็ไม่ละทิ้งเรื่องความแข็งแรงทนทานของตัวสกู๊ตเตอร์โดยวัสดุโครงสร้างของ Ninebot D Series ทั้งคู่สองรุ่นใช้อะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมการบินโดยมีความคงทนกว่าอะลูมิเนียมทั่วไป ทำให้ป้องกันการแตกหักของข้อพับได้กว่า 2.5 เท่า และทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงรูปทรงได้ดีกว่า 3.8 เท่า

ระยะทางต่อการชาร์จ

ในเรื่องของระยะทางในการใช้งาน Ninebot D38U ขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 38 กิโลเมตรต่อการชาร์จในส่วนของ Ninebot D18W สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 18 กิโลเมตรต่อการชาร์จ เพราะขนาดแบตเตอรี่ของ Ninebot D38U มีขนาดใหญ่กว่า Ninebot D18W (Ninebot D18W ขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 5.1 Ah / Ninebot D38U ขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 10.2 Ah)

นอกจากนี้ เนื่องจากขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าของ Ninebot D38U ส่งผลให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่มากกว่า Ninebot D18W โดย Ninebot D38U มีน้ำหนักอยู่ที่ 16.4 กิโลกรัม เทียบกับ Ninebot D18W ที่มีน้ำหนักเพียง 14.8 กิโลกรัม

ความเร็ว และกำลังมอเตอร์

ในเรื่องของประสิทธิภาพของมอเตอร์นั้นให้พลังที่ต่างกัน มอเตอร์ในตัว Ninebot D18W ขับกำลังได้สูงสุด 500 วัตต์ ทำความเร็วสูงสุดได้ 25 กม./ชม. สามารถขึ้นเนินได้ในความชัน 10% Hill Grade

ในส่วนของ Ninebot D38U ได้กำลังมอเตอร์ที่สูงกว่าด้วยกำลังสูงสุด 700 วัตต์ ทำให้ได้ความเร็วสูงสุดที่มากกว่าและไต่เนินได้ชันกว่า Ninebot D38U โดยความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 30 กม./ชม. และขึ้นเนินได้ในความชัน 20% Hill Grade

ระบบเบรก

ระบบเบรกของทั้ง 2 รุ่นให้มาในลักษณะเบรกคู่เหมือนกันโดยล้อหลังจะเป็นดรัมเบรก ช่วยให้ชะลอหยุดรถได้หนึบ ๆ และเสริมแรงเบรกเพิ่มเติมด้วยเบรกไฟฟ้าที่ล้อหน้าทำให้หยุดรถได้ดีขึ้นและยังช่วยปั่นไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่สำหรับการใช้งานที่มากขึ้นด้วย

มาตรฐาน UL Standard และการกันน้ำ

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า D Series ทั้ง 2 รุ่นผ่านการทดสอบภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย UL Standard ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองรุ่นได้รับมาตราฐาน UL-2271 และ UL-2272 ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งานว่าจะไม่เกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรที่เป็นสาเหตุการนำไปสู่ไฟไหม้ได้

และนอกจากนี้ตัวสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า D Series ยังได้มาตรฐานการกันน้ำอีกด้วย โดยแบตเตอรี่สามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX7 นั่นก็คือสามารถทนต่อการจุ่มน้ำที่ลึกไม่เกิน 1 เมตรได้ถึง 30 นาที และในส่วนของมอเตอร์สามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX5 สามารถกันน้ำที่ถูกฉีดจากสายยางแรงดันต่ำได้ ทำให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า D Series ทั้งในรุ่น D18W และ D38U สามารถทนต่อการขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขณะที่ฝนตกโปรยได้สบาย ๆ

การเชื่อมต่อแอป Segway-Ninebot

สำหรับทั้งรุ่น D18W และ D38U สามารถเชื่อมต่อแอป Segway-Ninebot Version Global ได้ทั้งคู่เลย ฟังก์ชันการใช้งานแทบจะเหมือนกัน แตกต่างกันเล็กน้อยที่ D18W จะมี Walk Mode มาด้วย เป็นโหมดที่จำกัดความเร็วที่ 5 กม./ชม. ใช้สำหรับการขับขี่บนทางเท้า

ส่วนรุ่น D38U จะมี Cruise Mode มาให้ เป็นฟังก์ชันที่จะล็อกความเร็วให้คงที่เมื่อกดคันเร่งค้างไว้เป็นเวลา 5 วินาที เหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะไกลจะได้ไม่เมื่อยมือในการกดคันเร่งค้างไว้นาน ๆ และสามารถออกจาก Cruise Mode ได้โดยการแตะคันเร่งหรือเบรกอีกหนึ่งที ระบบ Cruise Mode ก็จะหยุดทำงาน

สำหรับ D Series ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีความแตกต่างในหลายมุมมอง ซึ่งก็เหมาะสมกับผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ผู้ที่ต้องการใช้ขับขี่ในระยะทางที่ไกลกว่าก็ควรมองไปที่ Ninebot D38U เพราะทั้งได้ระยะทางต่อการชาร์จที่มากกว่า รวมถึงความเร็วที่มากกว่า และไฟท้ายขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับการขี่ลงถนนในระยะที่ไกลกว่า ในส่วนของผู้ที่จำเป็นต้องยกสกู๊ตเตอร์บ่อยครั้ง เช่น ยกขึ้นบันได ยกข้ามสะพานลอย โดยไม่ได้ใช้ในระยะทางที่ไกลมาก ไม่เกินประมาณวันละ 10 กิโลเมตร Ninebot D18W ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพราะมีน้ำหนักที่เบากว่า

หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยในการเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ D Series กันไม่มากก็น้อยนะครับ ลองดูความต้องการของคุณแล้วเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ที่เหมาะสมกับตัวคุณกันนะครับ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมสามารถ Inbox ใน Line@ เข้ามาพูดคุยได้เลยนะครับ

‍

ถ้าอ่านบล๊อกนี้แล้วยังไม่สะใจสามารถค้นคว้ารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.monowheel.bike/products/ninebot-by-segway-kickscooter-d18w

https://www.monowheel.bike/products/ninebot-by-segway-kickscooter-d-series