หลายๆคนคงมีคำถามกับการจะเปลี่ยนมาใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือระบบขนส่งสาธารณะ ว่าจะมีความคุ้มค่าที่จะซื้อและใช้งานขนาดไหน วันนี้เรามีคำตอบ
เรื่องค่าใช้จ่าย
หากเราใช้รถยนต์ส่วนตัวในการไปทำงาน คุณจะต้องเสียค่าน้ำมันต่อเดือนประมาณ 2000-5000 บาทต่อเดือน ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าบำรุงรักษาและอื่นๆ อีกมากมายที่คุณอาจะต้องเสียหลายหมื่นบาทต่อปี หรือหากเราเลือกใช้การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ เราจะเสียค่าเดินทางหลายต่อ ไม่ว่าจะเป็นค่าวินมอไซค์ ค่ารถเมล์ ค่ารถไฟฟ้า BTS/MRT ซึ่งรวม ๆ แล้วอาจจะเสียเงินพอๆ กับคนใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่หากเราเลือกใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า นอกจากราคาจะถูกแล้วราคาไม่เกิน 13000-25000 บาท หากคิดเป็นค่าใช้จ่ายเทียบกับใช้รถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะก็ถือว่าคุ้มมากๆ เพราะไม่ต้องเติมน้ำมันเพราะใช้พลังงานไฟฟ้า แถมดูแลรักษาง่ายกว่ารถยนต์ส่วนตัวเป็นไหนๆ
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า แบบง่ายๆ
การเดินทางของผมปกติจากที่พักไปที่ทำงาน คิดเป็นระยะทาง 4-5 กม. ผมแบ่งเป็น 3 วิธีที่ผมเคยเดินทางไปทำงานนะครับ
วิธีที่ 1 ผมนั่งวินมอไซค์ 25 บาท ไป MRT ต่อ 1 สถานี 16 บาท ต่อวินจากหน้า MRT ไปที่ทำงาน 40 บาท รวม ค่าใช้จ่ายต่อวัน 71 บาท ไปกลับ 142 บาท
วิธีที่ 2 เรียกใช้แอพสีเขียวเลยครับ เฉลี่ยแบบไม่ได้ใช้ส่วนลดไปกลับ 95-100 บาทครับ
วิธีที่ 3 แท็กซี่ ผมเคยนั่งตอนเช้า เฉลี่ย 100-200 บาทครับต่อวัน
จากทั้ง 3 วิธีทั้งหมด ผมเลือกแอพพลิเชั่น แกร็บ ด้วยความที่ขั้นตอนเดียว ง่ายสะดวกรวดเร็ว แต่ ค่าใช้จ่ายผมอยู่ที่ 2000-2200 บาท
ผมขอเลือกวิธีที่ 2 มาเปรียบเทียบค่าเดินทางผมตกเดือนละ 2,200*12 = ปีละ 26,400 บาท
*ยังไม่รวมค่าความไม่แน่นอนของราคาแอพขึ้นอยู่กับอุปสงค์อุทานและช่วงเวลาการใช้งานด้วยครับ
เมื่อผมเลือกเปลี่ยนมาใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 ราคา 24,900.- คิดอัตราค่าเสื่อม หารจำนวนปีที่คิดว่าจะใช้ ผมคิดเล่นๆขั้นต่ำ อยู่ที่ 3 ปี ตกปีละ 8,000 บาทเองครับ
*ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าต่อการชาร์จ 3 บาท ค่าบำรุงรักษา1,000-1,500 บาท
การขับขี่บนท้องถนนเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ
เป็นที่ทราบกันอยู่ว่าสภาพการจราจรบนท้องถนนของประเทศไทยติดขนาดไหน หากเราใช้รถยนต์ส่วนตัวก็อาจจะต้องเสียเวลาอยู่บนท้องถนนวันละไม่ต่ำกว่า 1 ชม. หรือหากเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็ไม่สามารถไว้ใจได้ว่าจะไปทำงานทำหรือไม่ ไม่ว่าเราจะเลือกเดินทางแบบไหนเราก็ไม่สามารถหนีความแอดอัดบนท้องถนนได้ แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าก็สามารถทำให้เราลดระยะเวลาในการเดินทางได้มาก เพราะสามารถใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขับขี่บนท้องถนนและลัดเลาะบนฟุตบาทได้ หรือหากเราอยู่ใกลักับ BTS/MRTก็สามารถนำสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นรถไฟฟ้าBTS/MRT ได้ง่ายมากๆ
ขับขี่สนุกกว่าการขับรถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะ
อย่างที่ทราบกันดีกว่าการขับรถหรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะนั้นน่าเบื่อขนาดไหน เพราะต้องเจอกับรถติดและความวุ่นวายบนท้องถนน นอกจากนั้นแล้วหากเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็ต้องไปอัดติดกับผู้คนจนกลายเป็นปลากระป๋อง แต่ถ้าเราเลือกใช้สกู๊สเตอร์ไฟฟ้าก็สามารถทำให้เราสนุกไปกับการเดินทางไปทำงานและชื่นชมบรรยากาศระว่างทางไปอีกด้วยนะ ถามยังสนุกด้วยเพราะสามารถขี่ไปได้ชิวๆ อีกด้วย
ลดมลพิษได้มากกว่าเพราะใช้พลังงานไฟฟ้า
หลายครั้งที่เราพบว่าสาเหตุของมลพิษมากจากการเผาไหม้จากการใช้น้ำมัน จนตอนนี้หลายๆ ประเทศกำลังผลักดันให้คนในประเทศหันมาใช้พลังงานที่สะอาดและสร้างมลพิษได้น้อยกว่า ซึ่งก็คือพลังงานไฟฟ้า (แถมยังราคาถูกมากๆ) เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการสำหรับคนรักษ์โลกทุกๆ คน
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Nicebot ES2 เป็นพาหนะทางเลือกใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่สนใจประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรักโลกเพราะใช้พลังงานไฟฟ้าไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังเป็นพาหนะที่มีความสะดวกสบายและรวดเร็วด้วยกัน สามารถใช้งานได้ดีทั้งในตัวเมืองและนอกเมืองมีความหลากหลายต่างกันไปตามจุดประสงค์ของผู้ใช้งานแต่ละคน
.svg)
