สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอยู่ หรือกำลังศึกษาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า NINEBOT KICK SCOOTER ES2 แต่ยังชั่งใจหรือหาเหตุผลประกอบอยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่น ES2 มีข้อดีอย่างไรบ้างและการเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสักคันต้องพิจารณาถึงเรื่องอะไรบ้าง เพื่อเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด วันนี้เรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่คุณควรรู้ของ NINEBOT KICK SCOOTER ES2 ที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจจะย้ายมาใช้งาน ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยครับ

1.แบตเตอรี่
แบตเตอร์รี่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญและมีราคาแพงเท่ากับ 1 ใน 3 ของราคาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าควรตรวจสอบดูให้ดีว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของแบรนด์ที่เรากำลังสนใจอยู่มีคุณภาพดีหรือไม่ โดยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 จาก Monowheel นั้นใช้แบตเตอร์รี่แบบ Lithium จากบริษัท LG ขนาด 5.2 Ah สามารถขับไปได้ในระยะทาง 25 กิโลเมตร และยังมีระบบ Batterry management system (BMS) ที่มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะจากทาง Ninebot สำหรับใช้ในการควบคุมการจ่ายไฟให้มีความเสถียร ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังมีออฟชั่นแบตเตอร์รี่เสริมที่ช่วยให้ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 สามารถวิ่งได้ไกลขึ้นถึง 45 กิโลเมตร

2.กำลังวัตต์
การเลือกกำลังวัตต์มอเตอร์ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าควรพิจารณาเลือกจากพื้นที่ที่เราต้องการนำสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปใช้ หากใช้งานภายในหมู่บ้านที่มีทางลาดชันไม่มากนักมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 250 วัตต์ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ซึ่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 จาก Monowheel นั้นใช้กำลังไฟในการขับเคลื่อนอยู่ที่ 300-700 วัตต์ ทำให้คุณสามารถขับลงทางลาดหรือขึ้นทางชันได้อย่างสบายๆ

3.น้ำหนัก
สำหรับใครที่กำลังวางแผนในการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นพาหนะสำหรับการเดินทางไปทำงานที่อาจจะต้องขึ้นรถสาธารณะหรือข้ามสะพานลอยอาจต้องมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ถ้าการใช้งานของคุณไม่จำเป็นต้องแบกหรือยกตัวสกู๊ตเตอร์มากมายอะไรนัก เรื่องน้ำหนักก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับคุณ

4.ขนาดและประเภทล้อ
ขนาดล้อของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าถือได้ว่ามีผลต่อการขับขี่เป็นอย่างมาก หากสกู๊ตเตอร์มีล้อขนาดเล็กก็จะทำให้สดุดกับพวกลูกระนาดหรือพื้นต่างระดับได้ง่ายในขณะที่ขับ ดังนั้นตัวเลือกล้อที่ดีของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าควรมีขนาดที่ใหญ่กว่า 8 นิ้ว และเป็นแบบยางตันเพราะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่ายางแบบอื่นๆ

5.ระบบเบรค
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีระบบเบรคอยู่สองแบบ คือ แบบแฮนด์จักรยานที่เป็นแบบดิสเบรค และเบรคแบบระบบไฟฟ้า ข้อดีของระบบดิสเบรค คือ มีระยะเบรคที่สั้นสามารถเบรคหยุดได้ทันที แต่มีข้อเสีย คือ หากเราเกิดตกใจแล้วกดเบรคหยุดกะทันหันล้อของสกู๊ตเตอร์จะล็อคแล้วเราอาจเสียหลักหกล้มได้ ส่วนระบบเบรคแบบไฟฟ้ามีข้อดี คือ เวลาเรากดเบรคล้อจะไม่ล็อคทำให้สามารถชะลอตัวค่อยๆ หยุดได้ ข้อเสีย คือ มีระยะเบรคที่ยาวกว่าแบบดิสเบรค ซึ่ง สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 จาก Monowheel นั้น มีการใช้ระบบเบรคแบบไฟฟ้าทำให้สามารถค่อยๆ เบรคได้อย่างปลอดภัย แต่หากต้องการเบรกแบบฉุกเฉินก็มีระบบดิสเบรคสามารถเหยียบได้ที่ล้อหลังของตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นพิเศษอย่าง Regenerate Braking ที่สามารถช่วยชาร์จแบตเตอร์รี่ได้เมื่อเรากดเบรค

6.ระบบคันเร่ง
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักมีคันเร่งอยู่ 2 แบบ คือ “แบบปุ่มกด” ที่เมื่อต้องการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าก็แค่กดไปที่ปุ่ม หากต้องการหยุดก็ปล่อย มีข้อเสียคือสามารถควบคุมระดับความเร็วได้ยาก ไม่สามารถค่อยๆ เคลื่อนตัวแล้วเพิ่มความเร็วในภายหลังได้ ส่วนแบบที่สอง คือ “แบบบิด” มีข้อดีตรงที่เราสามารถควบคุมระดับความเร็วของตัวสกู๊ตเตอร์ได้ง่าย โดย สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 จาก Monowheel นั้น จะใช้คันเร่งเป็นแบบบิดตรงแฮนด์ด้านขวา นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Kick Start ที่ช่วยป้องการไม่ให้สกู๊ตเตอร์ของเราไม่พุ่งไปข้างหน้าหากมือของเราเผลอไปโดนคันเร่งเข้าในระหว่างที่เราจูงสกู๊ตเตอร์เดินอยู่ และยังมีระบบ Cruise Control ที่ช่วยรักษาระดับความเร็วสกู๊ตเตอร์ให้วิ่งไปข้างหน้าในความเร็วที่คงที่โดยไม่ต้องกดคันเร่งให้เมื่อยเมื่อขับไปในระยะทางที่ไกล

7.การพับเก็บ
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบางรุ่นสามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพกพาหรือขนย้าย แต่วิธีการพับเก็บของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นเก่าๆ นั้นส่วนใหญ่มักต้องใช้มือก้มลงไปดันคันโยกแล้วดึงสลักที่ด้านล่างถึงจะสามารถพับเก็บได้ แต่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 จาก Monowheel นั้นสามารถพับเก็บได้ง่ายกว่าด้วยขั้นตอนเดียวเพียงใช้เท้าเหยียบไปที่สลักด้านล่างก็สามารถพับเก็บสกู๊ตเอตร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายกว่า

8.ไฟส่องสว่าง
สกู๊ตเตอร์หลายๆตัวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานจะมีไฟส่องสว่างสำหรับใช้ขับในตอนกลางคืนเพื่อความปลอดภัย และที่พิเศษไปกว่านั้นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 มีไฟ LED ที่ส่องสว่างอยู่ใต้ท้องของตัวสกู๊ตเตอร์อีกด้วย

9. กันน้ำได้ไหม
ผมเชื่อว่านี่เป็นคำถามที่หลายๆ คนคงกำลังสงสัยว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสามารถกันน้ำได้หรือไม่ คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับมาตราฐาน IP ของสกู๊ตเตอร์ตัวนั้นว่าอยู่ในระดับใด ซึ่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 จาก Monowheel นั้น มีระดับไอพีอยู่ที่ IP54 ที่สามารถป้องกันฝุ่นและละอองน้ำที่มากระทบโดนตัวของสกู๊ตเตอร์ได้ทางทุกทิศทาง

10. ระยะทาง
ระยะทางก็ถือเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า โดยปกติแล้วสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานจะสามารถวิ่งได้มากกว่า 25 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอร์รี่หนึ่งครั้ง

11. โช๊ค
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในบางรุ่นนั้นมีโช๊คกันกระแทกทั้งล้อด้านหน้าและล้อด้านหลัง เพื่อลดแรงกระแทกในขณะที่ขับ ทำให้มีความสมูทขึ้น อย่างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ES2 และในบางรุ่นอาจมีโช๊คกันกระแทกเพียงด้านเดียวแบบ ES1 หรือในบางรุ่นอาจไม่มี

12. อุปกรณ์เสริม
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของบางแบรนด์มีความพิเศษตรงที่มีอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและความสนุกให้กับการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ เช่น การเพิ่มแบตเตอร์รี่สำรองเพื่อเพิ่มความเร็วและระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้มากขึ้น หรือเบาะเสริมสำหรับนั่งในขณะที่ขับสกู๊ตเตอร์

13.เทคโนโลยีและฟังชั่นการใช้งาน
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของบางแบรนด์มีความพิเศษตรงที่มีอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและความสนุกให้กับการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้ เช่น การเพิ่มแบตเตอร์รี่สำรองเพื่อเพิ่มความเร็วและระยะทางของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้มากขึ้น หรือเบาะเสริมสำหรับนั่งในขณะที่ขับสกู๊ตเตอร์

14.การรับประกัน
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันขึ้นมาก สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของบางแบรนด์จึงสามารถสั่งใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดความเร็ว การใช้ระบบล็อคตัวเครื่องผ่านทางสมาร์ทโฟนได้ ทำให้ดูทันสมัยและเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน

15.บริการหลังการขาย
การเป็นเจ้าของสกู๊ตเตอร์ก็เหมือนการเป็นเจ้าของรถคันหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องได้รับการบำรุง ซ่อมแซม เช่น การเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ อย่างเบรกและล้อยางที่มีการเสื่อมสภาพลงหลังจากการใช้งาน คุณต้องแน่ในว่าแบรนด์ที่คุณสนใจอยู่นั่นมีความน่าเชื่อถือ และมีบริการซ่อมบำรุงสกู๊ตเตอร์ของคุณให้กลับมาใช้งานตามปกติได้อีกครั้ง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าบทความที่ผมนำมาเสนอให้ในวันนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้แนวทางในการเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามากขึ้น ว่าควรดูในเรื่องอะไรก่อนซื้อบ้าง หากเพื่อนๆ สนใจและกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ใช้งานบ้าง สามารถลองเข้ามาดูรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.monowheel.bike