ฟีเจอร์เด็ดของ Segway Ninebot F40 รุ่นท็อปสุดใน F Series สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2022
สรุป 18 ฟีเจอร์เด็ดๆ Segway Ninebot F40 รุ่นท็อปสุดใน F Series รุ่นนี้เป็นรุ่นที่แฟน ๆ หลาย ๆ ท่านตั้งตารอคอย และวันนี้ MONOWHEEL ก็พร้อมจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ใครที่ยังสงสัยว่ารุ่นนี้ปังยังไง สเป็ค และฟีเจอร์เด่น ๆ มีอะไรบ้าง เรามาดูกัน !
1.ความเร็ว/ระยะทาง
Ninebot F40 ในการชาร์จจนเต็ม 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 40 กม. ด้วยความเร็วสูงสุด 30 กม./ชม. รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบชาร์จบ่อย หรือใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในระยะทางไกลๆ สามารถขับจากที่บ้านไปที่ทำงานไกลๆได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดง่ายๆแน่นอน และนอกจากนี้ยังมาพร้อมคันเร่งแบบปุ่มกดที่มี Cruise Control ช่วยรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดการเดินทาง
2.ประเภทของล้อ
ปกติแล้วล้อยางลมนั้นมีเอกลักษณ์ที่ความนุ่มของตัวล้อ การป้องกันแรงสั่นสะเทือนมายังตัวผู้ขับและมือที่จับแฮนด์ของผู้ขับขี่นั้นจึงทำได้ดีมาก และสำหรับ F40 (รวมถึง F Series ทั้งหมด) ทำได้ดีถึงขั้นเป็นปลื้ม นั่นคือยางลมคุณภาพใหม่ล่าสุด ที่ผ่านการทดสอบถึง 10,000 กิโลเมตร ถูกเสริมด้วยโพลีเมอร์ ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า และความใหญ่ของล้อที่ได้มาถึง 10" ยิ่งทำให้การขับขี่บนพื้นผิวต่างๆนั้นราบรื่น นุ่มนวลกว่าที่เคยสัมผัสในสกู๊ตเตอร์ที่มีล้อขนาดเล็ก และลายดอกยางที่รีดน้ำได้ดี ปลอดภัย มั่นใจ เมื่อต้องขับขี่ผ่านพื้นเปียกแฉะ
3.การขึ้นทางชัน
ด้วยพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าจาก Segway Ninebot 350W และแบตเตอรี่คุณภาพพรีเมียม ทำให้กำลังของ Ninebot F40 สามารถไต่ขึ้นเนินชันได้ถึง 20 องศา ไม่หวั่นแม้ต้องใช้ในสภาพพื้นผิวที่เป็นทางลาดชัน ไม่ต้องเดินจูงให้เมื่อยขาแต่อย่างใด
4.หน้าจอ Display
สุดๆไปกับหน้าจอ Display ที่บอกข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบครัน ทั้งมาตรวัดความเร็ว ระดับความเร็ว (Eco/D/S) สถานะไฟ สถานะ Bluetooth สถานะโหมดขับบนทางเท้า ระบบแจ้งเตือนอุณหภูมิสูงเกิน ระบบแจ้งเตือนความเสียหายเครื่อง ระดับแบตเตอรี่คงเหลือ แถมด้วยปุ่มที่ใช้งานได้ง่ายเพียงปุ่มเดียว
*การใช้งานปุ่มเพื่อเปลี่ยนระดับความเร็ว สามารถเปลี่ยนโหมดได้โดยกดปุ่ม 2 ครั้งติดกัน ประกอบด้วยโหมด Eco (15 km/h) โหมด Standard (25 km/h) และโหมด Sport (25 km/h เพิ่มความเร่งแรงสุด)
5.ระบบดิสก์เบรก
F Series มาพร้อมระบบเบรกแบบใหม่ ล้อหลังแบบดิสก์เบรกขนาด 140 มม. ที่เพิ่มเวลาการตอบสนองการเบรกได้ถึง 27% และเบรกภายใน 0.1 วินาที ทำงานควบคู่กับ Regenerative Brake ที่ล้อหน้าที่ทำหน้าที่หน่วงมอเตอร์ให้เกิดหารปั่นไฟกลับเข้าแบตเตอรี่เมื่อชะลอความเร็วหรือมีการเบรกนับว่าเป็นระบบเบรกคู่ที่มีความสเถียรภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ขับขี่ได้ดีที่สุด นอกจากนี้ F Series ยังมาพร้อม Regenerative Electric Rear Brake ที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับคืนสู่แบตเตอรี่ทุกครั้งที่ทำการเบรก เป็นระบบหมุนเวียนพลังงานเชิงกลให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับคืนสู่ระบบได้อย่างชาญฉลาด
6.เบรกแบบมือบีบ
ต่อเนื่องจากความฟินในดิสก์เบรกขนาด 140 มม. แล้ว Ninebot F40 นี้ ยังสั่งการผ่านเบรกแบบมือบีบสุดคลาสสิคแบบที่ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ใช้งานง่าย ถนัดมือ และมั่นใจว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์การขับขี่
7.กำลังมอเตอร์
ทรงพลังไปกับมอเตอร์กำลัง 350W ที่ทาง Segway Ninebot ได้คิดค้นขึ้นในการเพิ่มสมรรถนะ ลดความร้อนให้ต่ำลง และเพิ่มอายุการใช้งานให้ทนทานมากขึ้นถึง 3,000 ชั่วโมง ! เรียกได้ว่าทนจนลืมไปเลยว่าการซ่อมบำรุงคืออะไร ดังนั้นผู้ใช้งาน Ninebot F40 จึงมั่นใจได้ทุกการขับขี่ว่า เป็นเจ้าของสกู๊ตเตอร์ที่นอกจากมีมอเตอร์แรงทะลุมิติแล้ว ยังมีอายุการใช้งานที่มั่นใจเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
8.แบตเตอรี่
หนึ่งจุดแข็งของแบรนด์ Segway Ninebot ที่ใครๆต้องยกนิ้วให้นั่นคือ Ninebot F Series ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม และมีระบบการจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ BMS ช่วยดูแลเรื่องการจ่ายไฟ และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิดด้วยกลไกการป้องกันที่ดีเยี่ยม ช่วยป้องกันตั้งแต่ไฟฟ้าลัดวงจร ไปจนถึงความร้อนที่สูงเกินไป โดยรวมสรุปได้ว่าระบบ BMS จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานไปอีกระดับ ยิ่งไปกว่านั้นซีรีส์นี้ยังมาพร้อมกับ Regenerative Electric Rear Brake ที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับคืนสู่แบตเตอรี่ทุกครั้งที่ทำการเบรก เป็นพลังงานหมุนเวียนที่ช่วยให้แบตเตอรี่หมดช้าลงกว่าเดิมได้อีกด้วย
9.การพับเก็บ
Ninebot F Series สานต่อความสำเร็จจากรุ่นที่นับได้ว่าโด่งดังที่สุดอย่าง Ninebot MAX ด้วยการพัฒนาการพับที่ง่าย สะดวก และแข็งแรงทนทาน ผู้ใช้งานจึงสะดวกสบายในการพับเป็นรูปแบบ 3 เหลี่ยม และยกถือได้ โดย F40 มีน้ำหนัก 15.8 กก. นอกจากนี้เมื่อพับแล้วมีขนาดที่ 1,143*480*495 มม. สามารถเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระท้ายรถได้อย่างง่ายดาย (ลองวัดกับที่เก็บสัมภาระท้ายรถ รถส่วนใหญ่วางได้แน่นอน)
10.สีใหม่ สวยกว่าเดิม
หนึ่งสิ่งที่ทำให้ Ninebot F40 น่ามอง พรีเมียม และคูลมากๆ นั่นคือการดีไซน์ที่ใช้โทนสีเฟรมเครื่องสีดำแบบ Matt Black สุขุม ลุ่มลึก ดูลึกลับ มีเสน่ห์น่าค้นหา ตัดด้วยสีส้มสดที่สาย คอ ล้อ และดิสก์เบรค ที่เพิ่มความสปอร์ทเร้าใจ เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ดูเท่ สปอร์ท พรีเมียม ใครเห็นต้องว้าวกันทุกคน
11.โครงสร้างอลูมิเนียม
หมดห่วงเรื่องการรับน้ำหนัก เพราะ Ninebot F40 อัพเกรดวัสดุให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ด้วยโครงอลูมิเนียมแบบใหม่ เกรด Aviation ที่น้ำหนักเบาและแข็งแรงมากขึ้น ข้อพับป้องกันการแตกหัก +2.5 เท่า ต้านทานการเปลี่ยนแปลงรูปทรง +3.8 เท่า รับน้ำหนักได้ถึง 120 กก. แข็งแรง ทนทาน ไม่งอ มั่นใจได้ตลอดเวลาที่ยืนบนสกู๊ตเตอร์ Ninebot F Series
12.ระยะ Clearance
ไม่ว่าจะเจอลูกระนาด หลุมเล็กหลุมใหญ่ ไหล่ทาง บันไดเตี้ย ขอบกระเบื้องแตกหัก หรือร่องถนนอันโหดร้าย ก็สบายใจได้ ด้วยระยะ Ground Clearance หรือความสูงจากพื้นถึงท้องเครื่องที่ค่อนข้างสูงถึง 9 ซม. หากเทียบกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆแล้ว รุ่นนี้ถือว่าสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว โอกาสที่ท้องเครื่องจะขูดหรือติดชะงักกับพื้นผิวต่างๆจึงน้อยลงมาก
13.ฐานยืนกว้างขึ้น
Ninebot F40 เป็นอีกรุ่นที่เรียกได้ว่ายืนได้อย่างสบายและมั่นใจทุกสรีระ ไม่ว่าจะเท้าเล็กหรือใหญ่ก็สามารถยืนได้ทั้งสองเท้า ด้วยฐานยืนกว้างขึ้น 30% เป็น 17.8 ซม. พร้อมดีไซน์ปุ่มกันลื่นเพื่อความปลอดภัยมากกว่าเดิม
14.ไฟหน้า/หลัง
สว่างไสว เห็นมาแต่ไกล ปลอดภัยทุกค่ำคืน ด้วยไฟหน้าและไฟท้ายใสกิ๊ก HD ชัดแจ๋ว โดยไฟหน้า LED 2.5 W ของ Ninebot F40 มีความสว่างไกลถึง 13.5 เมตร ไกลขนาดนี้แต่ไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง เพราะองศาไฟที่ถูกออกแบบมาอย่างดีให้ตกกระทบลงบนพื้นและไฟสีขาวคมชัดยังทำให้สามารถมองเห็นพื้นได้ไม่แพ้กลางวัน นอกเหนือจากนี้ยังมีไฟท้าย ไฟเบรกสีแดงแรงฤทธิ์ที่คอยให้สัญญาณเพื่อนร่วมทางด้านข้างและด้านหลังได้อย่างชัดเจน ปลอดภัย ไม่ว่าจะมืดสักแค่ไหนก็ตาม
15.กระดิ่ง Built-In มากับเครื่อง
Ninebot F Series ได้จัดกระดิ่งให้แบบ Built-In ติดเครื่องมาให้อย่างเรียบร้อยเนียนกริบ โดยกระดิ่งที่เพิ่มเข้ามา มีเสียงดังฟังชัด ให้สัญญาณได้อย่างชัดเจน และติดมาให้ตั้งแต่รุ่น F20A F30 และ F40 ทั้ง 3 รุ่นในซีรีส์
16.ขาตั้ง
Ninebot F Series มีอีก 1 สิ่งที่หลายคนเคยมองข้ามไป แต่มันสำคัญมากถึงมากที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ใช้งานทุกครั้งและหลายๆคนมักหงุดหงิดกับการที่ขาตั้งหลบอยู่ในท้องเครื่องมากเกินไป ทำให้ใช้เท้าเตะลำบาก ในที่สุด F Series ก็ได้แก้ปัญหานี้แล้ว โดยขาตั้งที่ยื่นออกมาได้อย่างพอดิบพอดี ไม่เกะกะ และสะดวกในการใช้งาน แถมยังสามารถตั้งได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องกลัวล้มอีกด้วย
17.Application
Segway Ninebot มี Application ที่ชื่อ "Segway-Ninebot" ที่มีฟังก์ชั่นการควบคุมระบบต่างๆของตัวเครื่อง บันทึกเส้นทางการใช้งาน อัพเดท Firmware ตัวเครื่อง แถมยังมี Rider’s Social Network ที่เอาไว้แชร์ประสบการณ์การขับขี่ดีๆกับชาว Segway Ninebot ด้วยกันเอาไว้ด้วย นับได้ว่าเป็นระบบ Eco System ที่ใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมาก
18.รับประกัน 2X ปี
หมดห่วงกับทุกปัญหาการใช้งาน ลูกค้า MONOWHEEL ตัวแทนจัดจำหน่าย Segway Ninebot อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จะได้รับประกัน X2 เท่า แบบจุใจไปเลยสำหรับลุกค้า Ninebot F Series โดยโครงรถ มอเตอร์ จอแสดงผล ล้อหลัง มีประกัน 24 เดือน ส่วนแบตเตอรี่ และดิสก์เบรก มีประกัน 12 เดือน และนอกจากนี้ MONOWHEEL ยังมีศูนย์บริการครบวงจรเปิดให้บริการอีกด้วย
*นอกจากสั่งซื้อทางออนไลน์ได้แล้ว ยังสามารถเข้ามาที่ศูนย์เพื่อทดลองขี่ได้ทุกรุ่น