เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด Ninebot ES2 VS DYU D2f
ตอนนี้แอดฯ เชื่อว่าหลายท่านกำลังตัดสินใจเลือกระหว่างจักรยานไฟฟ้า vs. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า วันนี้เรามีคำแนะนำเด็ดๆ มาให้ที่นี่
ในช่วงนี้มีหลายๆคนที่กำลังหาข้อมูลและกำลังตัดสินใจซื้อยานพาหนะในการเดินทางที่มีความสะดวกรวดเร็วและกะทัดรัด ซึ่งก็มีคนถามผมมาเยอะโดยเฉพาะคนที่สนใจสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 กับจักรยานไฟฟ้า DYU D2f แต่ความแตกต่างจริงๆที่นอกจากดีไซด์แล้วมีอะไรบ้างนะ?
วันนี้ผมจะมาเปรียบเทียบหมัดต่อหมัด Ninebot ES2 VS DYU D2f แบบละเอียดกันครับ อันไหนที่เหมาะกับตัวเรา ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ มีแค่บางส่วนที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็มีอีกหลายๆ จุดที่แตกต่างกันพอสมควรเลยนะครับ เปรียบเทียบให้ดูกันบ้างครับมาดูกันง่ายๆ แบบนี้
วัสดุตัวเครื่อง
วัสดุคุณภาพที่แข็งแกร่งทนทาน ความแตกต่างอย่างชัดเจนสองรุ่นนี้คือวัสดุที่ทำให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 ที่จากอลูมิเนียมมีความแข็งแรงมีน้ำหนักที่เบากว่า จักรยานไฟฟ้า DYU D2f ที่วัสดุทำจากเหล็ก
น้ำหนัก
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES 2 มีน้ำหนักอยู่ 12.5 เบากว่าตัวจักรยานไฟฟ้ายังถือว่ายกได้สบายทั้งผู้ชายและผู้หญิง ในขณะที่จักรยานไฟฟ้าน้ำหนักอยู่ที่ 17 กก. ผู้ชายยังถือว่าพอยกได้ในขณะที่ผู้หญิงยกถือว่าหนักเลยแหละครับ
ระยะทางในการวิ่งใครไปได้ไกลกว่า
ทั้งสองความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กม./ชม. เท่ากันเลยครับ ความแตกต่างหลักๆ คือเรื่องระยะทาง สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES 2 วิ่งได้ไกลสูงสุด 25 กม. ต่อการชาร์จ ในขณะที่จักยานไฟฟ้า DYU D2f สามารถปั่นพร้อมใช้ไฟฟ้าได้ทำให้ไปได้ไกลกระยะทางสูงสุด 45 กม. ไปไกลกว่าเพราะมีที่ปั่นคอยช่วย
แต่ถ้าแบตหมดทำอย่างไร? สกู๊ตเตอร์ก็ไถครับ ส่วนจักรยานรุ่น D2f อาจจะได้เปรียบกว่าในส่วนนี้เพราะว่าสามารถปั่นกลับบ้านชิวๆ เลยครับ
ล้อ
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES 2 พร้อมล้อยางตันที่ขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้ว ข้อดีของล้อยางตันคือ ไม่รั่วและไม่ต้องเติมลมยาง อีกทั้งเพิ่มโช้คหน้า-หลังเข้ามาในตัว ส่วนจักรยานไฟฟ้า DYU D2f มาพร้อมล้อยางลมขนาดใหญ่ 12 นิ้ว ช่วยให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างราบรื่นทุกทางขรุขระ
ดังนั้นถ้ามองในเรื่องของสภาพถนน จักรยานยังคงได้เปรียบกว่าหน่อยๆ ครับ เพราะล้อใหญ่กว่า แต่ก็ต้องแลกเรื่องความสะดวกในการพกพาระดึบหนึ่ง
ระบบเบรก
จักรยานไฟฟ้าเป็นระบบเบรกแบบดิสเบรกข้อดีคือระยะเบรกสั้น ข้อเสียคือเวลาเบรกกดแบบตกใจอาจทำให้ล้อล้อคทำให้รถปัดนิดหน่อยครับ
ส่วนตัวสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบเบรกไฟฟ้าข้อดีคือ ตัวเบรกไฟฟ้าจะทำให้ล้อไม่ล้อคเป็นการเบรกที่หน่วงๆ สกู๊ตเตอร์ไฟฟฟ้ามาพร้อมเบรกหน้าและเบรกหลัง ตัวเบรกหลังจะอยู่ที่บังโคลนตรงล้อใช้เท้าเหยียบได้แต่จะได้ได้ระยะที่สั้นกว่า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาพร้อมฟังก์ชั่นเพิ่มเติมคือ Regenerative braking เป็นการเบรกเมื่อล้อหยุดเป็นการปั่นไฟเข้ามาที่ระบบแบบเตอร์รี่ซึ่งเป็นการชาร์จไฟในตัวเองถือว่าเป็นระบบที่เจ๋งมากอันหนึ่ง
การเชื่อมต่อ
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES 2 สามารถเชื่อมต่อแอพได้ แอพชื่อ Segway ส่วนตัวจักรยานไฟฟ้า D2f จะไม่มีแอพให้เชื่อมต่อนะครับ
ซึ่งภายในแอพของ Segway นั้นจะมีฟีเจอร์ส่วนการล็อคเครื่อง, เปลี่ยนสีไฟ และเช็คสภาพเครื่องเพิ่มเติมครับ
ไฟ LED
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาพร้อมไฟหน้า และไฟใต้ท้องเครื่องที่สามารถปรับแต่งได้จากตัวแอพ จักรยานไฟฟ้า D2f มาพร้อมไฟหน้า LED อยู่ด้านหน้าตัวเครื่อง เปิด/ปิดง่าย ที่หน้าจอ Display พร้อมทั้งใช้ไฟรวมกับแบตก้อนหลัก ไม่ต้องชาร์จแยก ให้แสงสว่างเมื่ออยู่ในที่มืด ขับขี่ปลอดภัย ดังนั้นในหัวข้อนี้ถือว่าคล้ายๆ กันครับ
อุปกรณ์เสริม
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES 2 สามารถติดแบตเตอรี่สำรองเสริมช่วยให้ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ของคุณ วิ่งไกลขึ้นได้ถึง 45 กม. พร้อมความเร็วที่เพิ่มเป็น 30 กม./ชม. และอุปกรณ์เสริมอย่างที่สองคือสามารถติดเก้าอี้เสริมได้ และยังคงสามารถพับเครื่องได้เช่นเดิม
ในส่วนของจักรยานไฟฟ้าสามารถติดตะกร้าเสริมช่วยให้บรรจุของได้มาขึ้น และเก้าอี้เสริมเป็นเก้าอี้เสริมสำหรับเด็กได้ อุปกรณ์เสริมขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน
การพับเก็บ และพกพา
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะได้เปรียบในเรื่องนี้มากทีเดียว ด้วยการพับแบบ 1- Step Folding เอาเท้าเหยียบตรงที่เหยียบ เวลาที่เดินทางเราต้องการการพับที่รวดเร็ว เช่นขึ้นฟุธปาท บันได ตัวสกู๊ตเตอร์ตอบโจทย์ง่ายสะดวกและรวดเร็ว
ในขณะที่จักรยานไฟฟ้าจะเป็นการพับ 2- Step Folding คือดึงสลักก่อนแล้วถึงจะพับได้ครับ แต่ด้วยด้วยการออกแบบที่สามารถพับได้ ทำไห้พับเก็บขึ้นหลังรถโดยง่ายทั้งคู่และยังเหลือพื้นที่ในการเก็บของ ง่ายต่อการพกพาไปด้วยทุกที่
จักรยานไฟฟ้า DYU D2f เหมาะกับใคร
- ใช้งานในระยะกลางจนถึงไกล สามารถออกถนนได้
- เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
- อาศัยอยู่ในพื้นที่สภาพถนนมีความหลากหลาย (ขรุขระ ไม่เรียบ เป็นหลุมเป็นบ่อ)
- ต้องการใช้งานหลากหลายรูปแบบ (ออกกำลังกาย, ใช้เป็นพาหนะ, ใช้เพื่อความผ่อนคลาย)
Ninebot ES 2 เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการใช้งานในระยะใกล้ (ใกล้ BTS/MRT หรือสถานที่ทำงาน)
- เหมาะกับคนที่เบื่อรถติด เพราะสามารถแทรกตามถนนได้ง่ายกว่า
- เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบายสามารถพกพาไปไหนก็ได้
- ต้องการความคล่องตัวสูง (พับเก็บได้ภายใน 5 วินาที)
- เหมาะกับคนที่มีพื้นที่ในการทำงานที่มีขนาดใหญ่ (โกดังสินค้า, โรงงานอุตสาหกรรม)
บทสรุปของการเปรียบเทียบ
เป็นยังไงกันบ้างครับ เปรียบเทียบหมัดต่อหมัด Ninebot ES2 VS DYU D2f สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 และจักรยานไฟฟ้า D2f ถ้าจะเปรียบอันไหนเจ๋งกว่ากัน ก็คงเป็นเรื่องตอบค่อนข้างยาก เพราะสองตัวนี้ ก็มีจุดเด่น จุดด้อยกันไปคนละแบบ ซึ่งทำให้มันเหมาะกับงานคนละอย่างจริงๆ ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคน และความชอบส่วนตัวด้วยครับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot ES2 มีความเท่ห์ในตัวของมันเองด้วยดีไซค์ที่เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เห็นได้ชัดว่าจะเน้นไปเรื่องการพับพกพาสะดวก ด้วยน้ำหนักที่เบา และการวิ่งที่ในระยะทางที่เหมาะสม เมื่อเทียบจักรยานไฟฟ้า
แต่ถ้าคุณอยากเน้นการใช้งานที่ง่ายด้วยพื้นฐานเบสิค เริ่มต้นด้วยจักรยานไฟฟ้าเลยครับ ดีไซน์ที่ออกแบบเป็นมิตรกับคนในครอบครัวคุณทุกเพศทุกวัย และเพิ่มเติมคือได้เรื่องการออกกำลังกายได้ทั้งและทำให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้น เจ้าจักรยาน DYU D2f ก็ถือว่าเหมาะทีเดียว
ซึ่งทั้งคู่ยังเป็นพาหนะที่มีความสะดวกสบาย และรวดเร็วด้วยกันทั้งคู่ สามารถใช้งานได้ดีทั้งในตัวเมือง และนอกเมืองมีความหลากหลายต่างกันไปตามจุดประสงค์ของผู้ใช้งานแต่ละคน
หากใครสนใจสามารถดูตัวอย่างสินค้า และสั่งซื้อได้ที่ https://www.monowheel.bike/ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิก http://ww.facebook.com/monowheeldotbike หรือ แอดไลน์ @monowheel