☑️ หน้าจอใหม่ ขนาดใหญ่ถึง 2.8 นิ้ว
☑️ ระบบไฟรอบคัน ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟ RGB ใต้ท้องเครื่อง
☑️ มาพร้อมยาง inner hollow tires ขนาด 8.1 นิ้ว ที่ให้ความนุ่มนวลขณะใช้งาน ดูแลรักษาง่าย หมดปัญหาเรื่องการรั่วซึม
RANGE UP TO 25 KM
25 KM/H TOP SPEED
8.1" INNER HOLLOW TIRES
2.8" LED DASHBOARD
RGB AMBIENT LIGHT
DUAL BRAKE SYSTEM
BATTERY MANAGEMENT SYSTEM
SEGWAY-NINEBOT APPLICATION
Ninebot E2 Series สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ล่าสุดเปิดให้จองได้แล้ววันนี้ (เฉพาะรุ่น E2 Plus) พิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองภายในช่วงเปิดตัว รับเลยส่วนลดเงินสดมูลค่า 2,000.- เหลือเพียง 16,900.- เท่านั้น (จากราคาปกติ 18,900.-)
Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับการออกแบบให้มีความโค้งมนทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่มีสไตล์ทำให้ผู้ขับขี่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ลดขนาดแป้นวางเท้าให้มีขนาดบางลงกว่าเดิม จุดศูนย์ถ่วงต่ำทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นคงและคล่องตัวขณะขับขี่
สำหรับ Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับหน้าจอโฉมใหม่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2.8 นิ้ว บอกรายละเอียดครบถ้วน มาพร้อมกับการดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์วางให้หน้าจอทำมุมเอียง 25 องศาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองข้อมูลบนจอได้อย่างสะดวกสบายกว่าเดิม
ใน Segway-Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับมอเตอร์กำลังสูงสุด 500W สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 25 กม./ชม. และสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 25 กม./ชาร์จ ถือว่าเป็นระยะทางและความเร็วที่เหมาะสมมากๆสำหรับคนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้ในทุก ๆ วันในระยะใกล้ถึงปานกลาง
Ninebot E2 Plus สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมดได้แก่ Walk Mode, Standard Mode, Sport Mode ได้แก่
- Walk Mode: 5 km/h
- Standard Mode: 20 km/h
- Sport Mode: 25 km/h
Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับมอเตอร์ทรงพลัง อัตราเร่งยอดเยี่ยมรู้สึกถึงการขับขี่ที่รวดเร็วและยังสามารถไต่ระดับความลาดชันได้ถึง 12%
โครงสร้างของ Ninebot E2 Plus ทำมาจากวัสดุที่เป็นเหล็กกล้าเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีความทนทานสูงทำให้ทนต่อการบิดงอและแตกหักได้ดีมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากการออกแบบที่ดีทำให้ Ninebot E2 Plus มีความสามารถในการกันฝุ่นกันน้ำได้เป็นอย่างดี โดยตัวเครื่องมีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นอยู่ที่ระดับ IPX4 ป้องกันน้ำกระเซ็นได้จากทุกทิศทาง และแบตเตอรี่ที่มีความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ IPX6 โดยสามารถทนต่อการฉีดน้ำจากสายยางแรงดันสูงอย่างน้อง 3 นาที
ยางของ Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับยางตันแบบใหม่ที่ภายในมีลักษณะกลวง เพื่อเพิ่มพื้นที่ไว้คอยลดแรงกระแทกที่ส่งจากพื้นมาสู่ตัวเครื่องให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อการขับขี่ที่สบายและเนื่องจากเป็นยางตัน ดังนั้นผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องยางรั่วซึม สามารถออกไปลุยได้ทุกพื้นผิว ดูแลรักษาง่ายพร้อมเพิ่มประสบการณ์การขับขี่สกู๊ตเตอร์ให้ดีมากยิ่งขึ้น
ระบบเบรกของ Ninebot E2 Plus ประกอบมาด้วยกันถึง 2 ระบบโดยจะแบ่งเป็นเบรกไฟฟ้าที่ล้อหน้า (สามารถปรับระดับความแรงของเบรกได้ผ่านแอปพลิเคชั่น) และดรัมเบรกที่ล้อหลัง โดยการทำงานควบคู่กัน 2 ระบบเบรกนี้ช่วยให้การเบรกนั้นมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับไฟหน้า LED กำลัง 2.1W ระยะในการส่องไกลถึง 13.5 เมตร ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งต่างได้อย่างชัดเจนเมื่อขับขี่ในที่มืด ตอกย้ำความปลอดภัยเวลาขับขี่ตอนกลางคืนด้วยไฟเบรกขนาดใหญ่ ถูกต้องตามมาตรฐาน E-MARK สว่างชัดเจน ทำงานตอบสนองทันทีเมื่อมีการเบรกเกิดขึ้น
ในรุ่น Ninebot E2 Plus ทาง Segway-Ninebot ได้ใส่ฟีเจอร์ที่ถูกใจหลาย ๆ คนมาให้ นั่นก็คือไฟ LED ใต้ท้องเครื่องที่สามารถปรับการแสดงผลได้ตามใจชอบผ่านแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot เพิ่มความโดดเด่นมากขึ้นเมื่อขับขี่ในเวลากลางคืน
ระบบแบบเตอรี่ของ Ninebot E2 Plus มาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะอย่าง Battery Management System (BMS) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ไปสู่วงจรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้องกันปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็น
1. ป้องกันอุณภูมิที่สูงจนเกินไป จนนำไปสู่การเกิดไฟไหม้
2. ป้องกันไฟช็อต
3. ป้องกันการจ่ายไฟที่มากเกินไปสู่แบตเตอรี่ที่เป็นผลมาจากสายชาร์จเกิดความเสียหาย
4. ระหว่างการชาร์จไฟ หากแบตเตอรี่ได้ปริมาณไฟเต็ม 100% แล้ว BMS จะทำหน้าที่ตัดกระแสไฟไม่ให้แบตเตอรี่รับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่มากเกินไป
5. ป้องกันการจ่ายไฟจากเซลล์แบตเตอรี่ที่มากเกินไประหว่างการใช้งาน
6. ป้องกันไม่ให้แรงดันไฟฟ้าในเซลล์แบตเตอรี่ตกจนนำไปสู่การเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
Ninebot E2 Plus ยังคงเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถพับเก็บได้ โดยขั้นตอนในการพับก็สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ ภายใน 3 วินาที ขนาดกะทัดรัดทำให้สามารถพกไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการพกขึ้นลิฟต์, พกไปขึ้นรถสาธารณะหรือพกใส่ท้ายรถไว้เพื่อใช้งานก็สามารถทำได้
สามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆได้ตามใจชอบและยังสามารถจัดการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot E2 Plus ได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot บนโทรศัพท์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น
1. ดูสถานะการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นระยะทางวิ่งได้, ระดับแบตเตอรี่ หรือระยะทางทั้งหมด
2. อัปเดตเฟิร์มแวร์
3. ล็อก/ปลดล็อกตัวเครื่องได้
4. ปรับแต่งสีไฟ
5. ปรับแต่ระดับเบรกไฟฟ้า
6. แชร์ประสบการณ์การขับขี่ของคุณไปยัง Segway-Ninebot Community
โดยตัวแอปพลิเคชั่นนั้นรองรับบนระบบปฎิบัติการ iOS และ Android
ควบคุมระบบต่าง ๆ ของตัวเครื่อง
บันทึกเส้นทางการใช้งาน
อัปเดต Firmware ตัวเครื่อง
Rider’s Social Network
ชื่อรุ่น
Segway-Ninebot E2 Plus
ราคา
ความเร็วสูงสุด
25 กม./ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
25 กม./ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium-ion 10.2 Ah
กำลังมอเตอร์สูงสุด
500 วัตต์
ประเภทยาง
8.1" ยางตันด้านในกลวง
ชื่อรุ่น
Segway-Ninebot E2
ราคา
ความเร็วสูงสุด
20 กม./ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
25 กม./ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium-ion 10.2 Ah
กำลังมอเตอร์สูงสุด
450 วัตต์
ประเภทยาง
8.1" ยางตันด้านในกลวง
มีระบบรับประกันเป็นอย่างไร?
สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อ Ninebot E2 Plus จากทาง MONOWHEEL จะมีระบบรับประกันโครงสร้างนานถึง 3 ปี มอเตอร์ 2 ปี และแบตเตอรี่ 1 ปี ถือเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot ที่มีระบบการรับประกันที่ดีที่สุดรุ่นนึงเลยครับ และถ้าหากหมดระยะประกันไปแล้วทาง MONOWHEEL ก็ยังมีบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าเลยครับ
Ninebot E2 Plus สามารถขี่ตอนฝนตกได้ไหม?
ความสามารถในการกันน้ำของ Ninebot E2 Plus จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือในส่วนของตัวเครื่องจะมีมาตรฐานกันน้ำอยู่ที่ระดับ IPX4 คือสามารถป้องกันน้ำกระเซ็นได้รอบทุกทิศทางรวมถึงน้ำฝน และแบตเตอรี่มีความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ระดับ IPX6 คือสามารถป้องกันการฉีดน้ำแรงดันสูงได้ โดยจากความสามารถในการกันน้ำจากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า Ninebot E2 Plus สามารถขี่ลุยฝนได้ในกรณีฉุกเฉินครับ แต่ทางเราก็ไม่แนะนำนะครับเนื่องจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำจะไม่อยู่ในเงื่อนไขประกันนะครับ
Ninebot D18W และ Ninebot E2 Plus อย่างไร?
ทั้ง 2 รุ่นจะมีจุดต่างกันหลัก ๆ ตั้งแต่เรื่องของดีไซน์เลยครับถ้ามองดูในรุ่น E2 Plus จะมีการดีไซน์ของตัวเครื่องให้มีความโค้งมนกว่าเดิม รวมถึงเรื่องของความสูงของตัวเครื่องในรุ่น E2 Plus จะมีความสูงน้อยกว่ารุ่น D18W เล็กน้อย ต่อมาในเรื่องของหน้าจอที่ Ninebot E2 Plus ถูกพัฒนาให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น D18W โดยมีขนาดใหญ่ถึง 2.8 นิ้ว เลยทีเดียว และยังมีในเรื่องของยางและระยะทางอีกด้วยครับ โดยในรุ่น D18W จะมาพร้อมกับล้อยางลมขนาด 10 นิ้วและสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 18 กม./ชาร์จ ส่วนรุ่นใหม่อย่าง E2 Plus จะมาพร้อมกับล้อยางตันภายในกลวงขนาด 8.1 นิ้ว สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 25 กม./ชาร์จ หากเทียบในเรื่องของระยะทาง E2 Plus ก็จะเป็นต่ออยู่เล็กน้อย แต่ถ้าในเรื่องของความนุ่มสบาย Ninebot D18W ก็ยังให้ความรู้สึกที่นุ่มกว่าครับ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคลแล้วครับว่าโดยรวมชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน
Ninebot E2 Plus เหมาะกับใคร?
Ninebot E2 Plus มีการดีไซน์ให้มีขนาดกะทัดรัดกว่าเดิมเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานของคนตัวเล็กหรือผู้หญิงมากขึ้น ระยะทางสูงสุดที่สามารถวิ่งได้คือ 25 กม./ชาร์จและความเร็วสูงสุดที่ทำได้จะอยู่ที่ 25 กม./ชม. ดังนั้น Ninebot E2 Plus จึงเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นไปไว้ใช้เดินทางระยะใกล้ถึงปานกลางครับ
หาเราเจอแน่นอนด้วยตัวแทนจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมศูนย์บริการใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมให้บริการคุณ
นี่คือหนึ่งในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยดีไซน์และฟีเจอร์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
อ่านต่อ