คราวนี้เป็นคราวของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าผู้ใหญ่ซีรีส์เล็กสุดกันบ้างกับ Ninebot KickScooter E2 Plus ดีไซน์รูปแบบใหม่ไม่ชินตา ด้วยความสวยความเล็กกะทัดรัดและฟีเจอร์โดดเด่นมากมาย (แอบใบ้ว่าไฟใต้ท้องที่ทุกคนรอคอยกลับมาแล้วครับ) ด้วยราคาเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้มาเรียกว่าคุ้มค่ามาก ๆ โดยรีวิวนี้เราจะเล่าทั้งหมด 4 พาร์ทด้วยกัน ประกอบด้วย 1. Exterior Design 2. Specification 3. Application 4. Key Features ใครอยากดูพาร์ทไหนเป็นพิเศษสามารถเลื่อนดูได้เลยนะครับ
Exterior Design
ดีไซน์ใหม่ เครื่องเล็กกะทัดรัด
Ninebot E2 Plus มีหน้าตาแตกต่างชัดเจนครับเมื่อเทียบกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นก่อน ๆ โดยดีไซน์แบบใหม่นี้ Segway-Ninebot เรียกว่า ‘Surfing Style’ เป็นการดีไซน์ที่ทันสมัยแสดงออกถึงความกระตือรือร้นที่จะออกสำรวจในทุกพื้นที่ บริเวณด้านบนของลำคอจะโค้งออกไปข้างนอก แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ และจุดเด่นในการดีไซน์อีกอย่างคือมีแท่นเหยียบที่อยู่ต่ำทำให้มีความมั่นคงในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
Handlebar
Handlebar รุ่นนี้มีดีไซน์ที่ใหม่และแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจน ตัวโครงด้านบนโค้งออกไปด้านนอก แต่ในด้านการใช้งานยังเป็นเหมือนเดิมฝั่งซ้ายเป็นกระดิ่งที่มีเกลียวสำหรับล็อกตัวเครื่องและมีแฮนด์เบรกส่วนฝั่งขวาเป็นคันเร่ง
หน้าจอ LED
หน้าจอของ E2 Plus ถือเป็นหนึ่งจุดขายเพราะหน้าจอมีการดีไซน์แบบใหม่เป็นแนวนอน ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 2.8 นิ้ว มีการปรับให้โค้งเข้าหาเรา 25 องศาเพื่อง่ายต่อการมองเห็นและการใช้งานมากยิ่งขึ้น ส่วนปุ่มควบคุมการสั่งการยังคงมีปุ่มเดียวตรงกลางโดยกดสำหรับเปิด - ปิดเครื่อง กดสองครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่ (3 โหมด : Walk, Drive, Sport) และกดหนึ่งครั้งเพื่อการเปิด - ปิดไฟ
ลำคอ + ไฟหน้า
วัสดุที่ใช้ในรุ่นนี้ยังคงแข็งแรงมั่นคงเหมือนรุ่นอื่น ๆ มีการติดตั้งไฟหน้ามาให้เหมือนเดิม กำลังไฟ 2.1W สว่างกว่า 13.5 เมตร รองรับมาตรฐาน EU E-Mark จากยุโรปเพื่อความปลอดภัย
*(EU E-Mark คือมาตรฐานรองรับสำหรับพาหนะยานยนต์ต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป หากมีเครื่องหมายนี้แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นไปตามความปลอดภัยของสหภาพยุโรป ในส่วนของระบบไฟจะเป็น E32)
Footboard
บอร์ดรุ่นนี้ดีไซน์มาแบบเรียบง่าย มีขนาดที่บางกว่าบอร์ดรุ่นอื่น ๆ มีการออกแบบให้อยู่ต่ำเพื่อสร้าง Low Center Gravity หรือจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้เกิดความมั่นคงในการขับขี่ ด้านหน้ามีช่องสำหรับชาร์จและด้านหลังยังมีการติดตั้งไฟท้าย (ไฟเบรก) เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือขนาดใหญ่ขึ้น รองรับมาตรฐาน EU E-Mark เพื่อความปลอดภัยอีกเช่นเคย
RGB Ambient Light ใต้ท้องเครื่องกลับมาแล้ว
Ninebot E2 Plus มี Key Feature ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบและเรียกร้องการกลับมาของมันครับ นั่นก็คือ ไฟใต้ท้องนั่นเอง โดยของรุ่นนี้สามารถเปิด - ปิด และปรับรูปแบบการทำงานของมันได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot ปรับได้ทั้งหมด 3 แบบ และใน 3 โหมดการขับขี่สามารถปรับให้แตกต่างกันได้
ล้อ & ยาง
Ninebot E2 Plus เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยางเป็นยางตันชนิดพิเศษ เรียกว่า Inner Hollow Tires ที่ข้างในจะกลวงแบบเป็นช่อง ๆ เพื่อให้ตัวยางมีน้ำหนักที่เบารับแรงกระแทกเหมือนมีระบบช่วงล่าง โดยตัวยางมีขนาด 8.1 นิ้ว สาเหตุที่ต้องเป็น 8.1 นิ้วเพราะว่าเป็นขนาดของยางตันที่จะทำงานได้ดีที่สุด และประโยชน์อีกอย่างของการใช้ยางตันคือทำให้เราไม่ต้องกังวลปัญหาการรั่วซึมและไม่ต้องดูแลเท่ายางลมนั่นเอง
ระบบเบรก
ถึงจะเป็นรุ่นเล็กแต่ Ninebot E2 Plus เป็นระบบ Dual Brake ล้อหน้าเป็นเบรกไฟฟ้าที่มี Regenerative Brake คอยปั่นไฟกลับเข้าตัวเครื่อง ส่วนล้อหลังเป็นดรัมเบรก ที่ง่ายต่อการดูแลรักษา
ล็อกคอและการพับ
ระบบล็อกคอได้มีการปรับให้เหมือนกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่รุ่นอื่น ๆ นั่นคือเป็นสลักล็อก 2 ชั้น ชั้นแรกจะล็อกอัตโนมัติเวลาตั้งเครื่อง ปลอดภัยและแน่นหนากว่าเก่า และด้วยตัวเครื่องที่สั้นลงทำให้หลังรถคันไหนก็ใส่ได้หมดไม่มีปัญหา
จบแล้วสำหรับพาร์ทหน้าตาและดีไซน์ ต่อพาร์ทต่อไปกันเลย
Specifications
Application
Ninebot E2 Plus ยังสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นได้เหมือนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าผู้ใหญ่รุ่นอื่น ๆ หน้าตาแอปจะเป็นแบบนี้เลยครับ หน้าตาจะเหมือนกับรุ่นอื่น ส่วนฟีเจอร์ภายในต่างกันอย่างไรบ้างมาดูกัน
ภายในมีความคล้ายแต่ไม่ทั้งหมด ไล่ลงไปจะมี
- อัปเดตเฟิร์มแวร์
- Activate Cruise Control โหมดสำหรับคงความเร็วโดยไม่ต้องกดคันเร่ง รุ่นนี้เป็นการค้างคันเร่งไว้ 5 วิ แล้วโหมดนี้จะทำงานอัตโนมัติ
- Energy Recovery โหมดปั่นไฟกลับสามารถปรับได้ 3 ระดับ Weak Medium Strong กำลังไฟที่กลับเข้ามาจะแตกต่างกัน
- Starting Speed โหมดเลือกความเร็วในการออกตัว รุ่นนี้ปรับได้ตั้งแต่ 3 - 5 กม/ชม. อยากให้มอเตอร์ทำงานตอนความเร็วเท่าไหร่เลือกได้เลย
- Lighting Effects โหมดสำหรับการปรับไฟ เลือกปรับได้ทั้งไฟท้ายและไฟใต้ท้อง
- Allow Others to Connect โหมดนี้พึ่งเข้ามาใหม่หลังอัปเดตเฟิร์มแวร์ (รุ่นเก่า ๆ ก็มี) ไว้สำหรับอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเราได้หรือไม่
นี่เป็นฟีเจอร์คร่าว ๆ ที่เราสามารถปรับแต่งได้ในตัว Ninebot E2 Plus นะครับ ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ อย่าง Moment ที่ทำหน้าที่เหมือน Facebook และ IG, การจัดอันดับ Ranking หรือ Achievement ที่ให้เราคอยเก็บต่าง ๆ ยังคงมีให้ครบถ้วนครับ
Key Features
ตัวเครื่องรูปร่างเล็กกะทัดรัด
ตัวเครื่องของ Ninebot E2 Plus มีขนาดที่เล็กและสั้นลง ทำให้เรื่องของการพกพาเป็นไปได้อย่างง่ายดายกว่ารุ่นอื่น ๆ และในด้านของการใช้งานจะเหมาะสมกับคนที่มีรูปร่างเล็กมากกว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าผู้ใหญ่รุ่นอื่น ๆ
ดีไซน์แบบใหม่ สร้างการขับขี่ที่มั่นคง
อย่างที่กล่าวไปตอนแรกว่าถึงตัวเครื่องจะเล็กและน้ำหนักเบา แต่ทดแทนด้วยการดีไซน์ให้ตัวแท่นเหยียบอยู่ต่ำใกล้กับพื้นถนนเพื่อให้เกิดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การขับขี่มั่นคงและนิ่งยิ่งขึ้น
ไม่ต้องดูแลยาง
ถึงแม้การใช้ยางแบบ Inner Hollow Tires จะไม่นุ่มเท่ากับยางลม แต่ก็ทำให้ขับขี่ได้แบบไม่ต้องกลัวอะไร เพราะการเป็นยางตันจะไม่มีการรั่วซึมเกิดขึ้น และ Segway-Ninebot ได้ออกแบบไซส์ที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดในการใช้งานนั่นก็คือขนาด 8.1 นิ้ว ทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายและไร้ปัญหาใดใด
ระบบไฟ RGB Ambient Light
อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะและการใช้งาน แต่เป็นความชอบส่วนบุคคลแล้วครับ เพราะลูกค้าของ ES2 หลายท่านเลือกซื้อเพราะมีไฟใต้ท้องเครื่อง แถมปรับตามโหมดขับขี่ได้ด้วย เรื่องความเด่นเวลาขับขี่นี่กินขาดครับ
ความปลอดภัยอื่น ๆ ทั้งหมด
ในด้านของความปลอดภัยในรุ่นนี้ยังครบถ้วนครับ เพราะมาตรฐานต่าง ๆ ยังให้มาครบเช่นกันไม่ว่าจะเป็นระบบ BMS ที่ทำหน้าที่ควบคุมการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ไปสู่วงจรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ และรวมถึงมาตรฐานต่าง ๆ จากยุโรปและอเมริกา เช่น มาตรฐาน UL (UL2271 & 2272) รองรับเรื่องความปลอดภัยของแบตเตอรี่และการทำงานของตัวเครื่อง มาตรฐาน IP (IPX4 & IPX6) รองรับการกันน้ำของตัวเครื่องและแบตเตอรี่ มาตรฐาน EU E-Mark (E32) ที่รองรับเรื่องความปลอดภัยของระบบไฟ
ราคาต่อฟีเจอร์ที่ได้คุ้มค่ามาก
ด้วยราคาที่เหมาะกับเป็นรุ่นเริ่มต้นแต่ได้ฟีเจอร์ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Dual Brake มีระบบปั่นไฟ มีไฟใต้ท้องเครื่อง วัสดุและงานประกอบที่ดี ดีไซน์ที่สวยงาม และการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น ทุกอย่างล้วนได้มาหมดในรุ่นนี้ครับ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่หาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นสำหรับใช้งานครับ
Conclusions : E2 Plus เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
สรุปโดยรวมแล้ว Ninebot E2 Plus เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้กับคนที่มีรูปร่างเล็กและคนที่เน้นการพกพาอย่างมากที่สุดครับ ด้วยน้ำหนักที่เบา ตัวเครื่องที่เล็กลง หลังรถบางคันที่ใส่รุ่นก่อน ๆ ไม่ได้ รุ่นนี้ไม่พลาดแน่นอนครับ แถมไฟใต้ท้องแบบสวย ๆ มาให้ปรับเล่นกันด้วย แต่มีข้อดีย่อมมีข้อเสียครับ อย่างแรกที่อยากให้ลูกค้าทุกท่าน Concern เลยคือ Max. Load ครับ Ninebot E2 Plus เคลมน้ำหนักผู้ขับขี่สูงสุดไว้แค่ 90 Kg เกินได้แต่ความเร็วและระยะทางจะลดลงตามไปครับ ในด้านการใช้งานอาจจะมีข้อจำกัดในบางส่วน ทำให้โดยรวมแล้ว
รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่เน้นขับขี่ระยะใกล้ ใช้งานแถวบ้าน ขับไปซื้อของ
- ผู้ที่เน้นพกพา ต้องมีการยกไปมาบ่อย หรือต้องการคันเล็ก ๆ สำหรับใส่หลังรถ
- คนที่ชอบความสวยงาม (ไฟใต้ท้องสวยมาก)
- ผู้คนที่รูปร่างเล็กหรือคุณผู้หญิง เพราะการขับขี่และการพกพาจะเหมาะกว่ารุ่นอื่น ๆ
และจะไม่แนะนำสำหรับ
- ผู้ที่มีรูปร่างใหญ่ (น้ำหนักเกิน 90 กก.)
- ผู้ที่เน้นขับขี่ทางไกล รุ่นนี้อาจจะไม่เหมาะมาก
- ผู้คนที่ขับขี่บนถนนที่ขรุขระและทางลูกรัง ขับบ่อย ๆ แนะนำรุ่นอื่นครับ
ทั้งนี้ Usage Case ที่เหมาะและไม่เหมาะเป็นเพียงแค่การยกตัวอย่างเท่านั้นนะครับ เพราะความชอบเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัว ผมขอแนะนำให้มาทดลองเองครับ สุดท้ายนี้ขอฝากน้อง E2 Plus ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยครับ ขอบคุณครับ
⭐️ สอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ ⭐️
☎️ โทร : 02-107-2993 (9:00 - 23:59 น.) รองรับ 5 คู่สาย
✅ Line : http://bit.ly/LNmonowh (หรือ @MONOWHEEL)
💬 Inbox : m.me/monowheeldotbike
💻 Website : https://www.monowheel.bike
📌 ทดลองเล่น : ศูนย์ MONOWHEEL HQ จุฬาฯ 28 ถนนบรรทัดทอง
🏛️ Google Maps : https://bit.ly/3gNomtg