☑️ ใช้ชุดขับเคลื่อนแบบสายพานคาร์บอน
☑️ พับเครื่องได้ ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
☑️ สามารถถอดแบตเตอรี่ออกมาชาร์จได้
☑️ โครงสร้างจักรยานไฟฟ้าเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา
☑️ ช่องเสียบชาร์จมือถือแบบ Type-C
RANGE UP TO 100 KM
30 KM/H TOP SPEED
QUICK FOLDING
CARBON BELT DRIVE
REMOVABLE BATTERY
TURN-BY-TURN NAVIGATION
DUAL HYDRAULIC
DISC-BRAKE*
APPLICATION
จักรยานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ADO A20 ที่สุดของความสมาร์ทในทุก ๆ ด้านมาพร้อมกับวัสดุที่แข็งแรงเต็มไปด้วยคุณภาพ อัดฟีเจอร์มาให้อย่างจัดเต็มเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดย ADO A20 แบ่งออกมาเป็นสองรุ่น ได้แก่ ADO A20 Lite และ ADO A20 Air
โครงสร้างของ ADO A20 ทำมาจากอะลูมิเนียม อัลลอย ซีรีส์ 6061 ซึ่งมีจุดเด่นคือ มีความแข็งแรงทนทาน ง่ายต่อการขึ้นรูปและการเก็บงาน และยังมีน้ำหนักที่เบา ทำให้ ADO A20 Air มีน้ำหนักเพียง 18 กก. และ ADO A20 Lite มีน้ำหนักเพียง 19 กิโลกรัม ถึงแม้จะมีน้ำหนักที่เบา แต่ยังคงมีความแข็งแรงทนต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมหรือการบิดงอจากแรงกระแทกเพื่อเสริมให้ตัวเครื่องมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น
ตัวเครื่องของ ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นสามารถพับได้ถึง 3 จุด จุดที่ 1 คือการพับคอ จุดที่ 2 คือการพับบริเวณกลางเครื่อง และจุดที่ 3 คือการพับบันไดปั่น ด้วยความสามารถในพับทั้ง 3 จุดนี้ทำให้ขนาดตัวเครื่องหลังพับมีขนาดกะทัดรัด สามารถจัดเก็บได้โดยใช้พื้นที่เพียงนิดเดียวใส่ท้ายรถได้สบาย โดย ADO A20 ทั้ง 2 รุ่น มีขนาดหลังการพับ (ยาว x กว้าง x สูง) อยู่ที่ 86 x 48 x 63 ซม.
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับชุดขับเคลื่อนที่ใช้สายพานคาร์บอน (Carbon Belt Drive) แทนการใช้โซ่แบบเดิม ๆ โดยสายพานคาร์บอนจะมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องตัองมาคอยหยอดจาระบีหรือคอยกังวลเรื่องการเกิดสนิม และอีก 1 ข้อดีของสายพานคาร์บอนคือลดการเกิดเสียงเวลาปั่นได้อีกด้วย
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นสามารถทำความเร็วสูงสุด 30 กม./ชม. วิ่งได้ไกลสูงสุด 100 กม./ชาร์จ (ในโหมดช่วยปั่น) และยังมากับล้อยางลมขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว ทำให้การขับขี่นั้นนุ่มสบายสามารถใช้เดินทางได้จริงในทุก ๆ วัน ลดเวลาเดินทางพร้อมช่วยลดรายจ่ายในระยะยาว
ADO A20 Lite มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการปั่นแบบ Speed Sensor โดยเซนเซอร์ประเภทนี้จะตรวจจับรอบในการหมุนของวงปั่น เมื่อเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่าวงปั่นมีการหมุน มอเตอร์จะส่งกำลังไฟฟ้าเข้ามาช่วยให้เราปั่นได้สบายยิ่งขึ้น โดยจะปล่อยกำลังไฟฟ้าตลอดเมื่อมีการปั่น ทำให้เราแทบไม่ต้องออกแรงในการปั่น ทำให้การปั่นนั้นง่ายมาก ๆ
ADO A20 Air มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการปั่นแบบ Torque Sensor โดยเซนเซอร์ประเภทนี้จะตรวจจับแรงกดที่ส่งมาที่ตัวบันไดปั่น เมื่อเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีแรงกด มอเตอร์จะส่งกำลังไฟฟ้ามาช่วยทันที โดยกำลังไฟฟ้าที่มอเตอร์ส่งมาจะขึ้นอยู่กับการออกแรงปั่นของเรา หากเราค่อย ๆ ปั่น มอเตอร์จะค่อย ๆ ส่งกำลังไฟฟ้ามาช่วย แต่หากเราออกแรงปั่นมาก มอเตอร์จะส่งกำลังไฟที่มากตาม ทำให้การปั่นจักรยานที่มีเซนเซอร์ประเภทนี้ให้ความรู้สึกที่สมูธเหมือนกับปั่นจักรยานจริง ๆ แต่สบายกว่ามาก
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นมีระบบช่วยปั่น (Pedal Assist Mode) ที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับเพื่อปรับระดับการทำงานของมอเตอร์ให้ส่งกำลังช่วยคุณทำงานเวลาคุณออกแรงปั่นโดยจะแบ่งเป็น Sport, Tour, Eco
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน (Brushless Motor) กำลังสูงถึง 350W โดยมอเตอร์ชนิดนี้จะมีคุณสมบัติที่ดีกว่ามอเตอร์แบบปกติที่มีแปรงถ่าน (Brushed Motor) เนื่องจากองค์ประกอบภายในของมอเตอร์ไม่ส่วนใดสัมผัสกันเลยทำให้ไม่เกิดการเสียดสี ไม่เกิดความร้อนและไม่เกิดประกายไฟขณะมอเตอร์ทำงาน อายุการใช้งานยืนยาวกว่ามอเตอร์แบบปกติแบบมีแปรงถ่าน
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงจาก Samsung ที่ถูกบรรจุอยู่ในก้านของเบาะรองนั่งทำให้โดยรวมของตัวเครื่องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและที่สำคัญยังสามารถถอดก้านออกไปชาร์จได้โดยไม่ต้องยกจักรยานไฟฟ้าไปชาร์จทั้งคัน
ระบบเบรกของ ADO A20 Lite ติดตั้งเป็นระบบเบรกดิสก์เบรกแบบคู่ที่ล้อหน้าและล้อหลังโดยติดตั้งจานเบรกขนาด 160 มม. ทำให้ตอบสนองต่อการเบรกของผู้ขับขี่ได้อย่างทันที ไม่ว่าจะ ในสถานการณ์ไหนก็สามารถเบรกได้อย่างปลอดภัย
ถึงจะดูคล้ายกับเบรกของ ADO A20 Lite แต่ระบบเบรกของ ADO A20 Air พิเศษกว่าเพราะใช้เป็นระบบไฮดรอลิกดิสก์เบรกคู่ ซึ่งภายในจะมีส่วนผสมของน้ำมันไฮดรอลิกช่วยส่งแรงจากเบรกมือไปยังคาลิเปอร์ให้หนีบผ้าเบรก ทำให้ไฮดรอลิกดิสก์เบรกให้ประสิทธิภาพการเบรกได้ดีกว่าโดยใช้ที่ใช้แรงน้อยกว่า
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ IPS (In-Plane Switching) ช่วยให้การแสดงผลนั้นมีความคมชัดต่อให้อยู่ในที่ที่มีแสงมาก และยังสามารถแสดงผลได้แบบ 360 องศาจะมองจากมุมไหนก็ยังคมชัด นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการกันน้ำระดับ IPX7 จะฝนสาดหรือน้ำกระเด็นก็ไม่กลัว
นอกจากหน้าจอของ ADO A20 จะเป็นหน้าจอชนิดพิเศษแล้วยังมาพร้อมกับอีก 1 ฟีเจอร์พิเศษนั่นก็คือการติดตั้ง Port USB Type-C (5V 1A) มาให้บริเวณใต้หน้าจอทำให้สามารถเสียบสายชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ได้และถือเป็นอีก 1 ฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้จริงและดีมาก ๆ
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับไฟหน้าที่สามารถเปิด/ปิดได้ผ่านการกดปุ่มบนหน้าจอ มีความสว่างระยะการส่องไกลทำให้การขับขี่ตอนกลางคืนหรือในที่ที่มีแสงน้อยนั้นเป็นเรื่องง่าย เสริมทัพความปลอดภัยด้วยไฟท้ายสีแดงสว่างชัดเจนปลอดภัยเวลาขับขี่ตอนกลางคืน
อีก 1 ฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยคือแตรไว้ส่งสัญญาณคอยบอกเพื่อนร่วมทาง และใน ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นก็มาพร้อมกับแตรไฟฟ้าเสียงดังชัดเจน สามารถเปิดการทำงานโดยการกดปุ่มสะดวกสบายสุด ๆ
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมระบบนำทางสุดอัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชั่นที่เชื่อมต่อกับ Google Maps และเมื่อเราทำการกดนำทางระบบจะเชื่อมต่อไปยังหน้าจอของจักรยานและหน้าจอจะเพิ่มฟังก์ชั่นการนำทางแบบ Real Time ให้อัตโนมัติอีกด้วย
เนื่องจากเป็นจักรยานทำให้แอปพลิเคชั่นของ ADO A20 มีฟีเจอร์การบันทึกสถิติการปั่น โดยจะเก็บทั้งระยะทาง ระยะเวลา และรอบการปั่นในแต่ละวัน ฯลฯ และจะขยายออกมาเป็นรูปแบบของกราฟ
ชื่อรุ่น
ADO A20 Lite
ราคา
ความเร็วสูงสุด
30 กม./ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
สูงสุด 100 กม./ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium-ion
กำลังมอเตอร์สูงสุด
350 วัตต์
ประเภทยาง
20" ยางลม
ชื่อรุ่น
ADO A20 Air
ราคา
ความเร็วสูงสุด
30 กม./ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
สูงสุด 100 กม./ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium-ion
กำลังมอเตอร์สูงสุด
350 วัตต์
ประเภทยาง
20" ยางลม
ฟังก์ชั่น Smart GPS ใช้งานอย่างไร
ขั้นตอนแรกต้องโหลดแอปพลิเคชั่น ADO EBIKE และทำการเชื่อมต่อกับตัวจักรยานไฟฟ้า ADO A20 ของเราก่อนครับ และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จ ในแอปฯ บริเวณตรงกลางด้านล่างจะมีปุ่ม GO! ให้ลูกค้ากดเข้าไปครับ และลูกค้าสามารถกรอกสถานที่ที่จะให้ตัว GPS นำทางและกดปุ่มลูกศรนำทางสีเขียว (ตรงกลางด้านล่างของหน้าจอมือถือ) หลังจากนั้นตัว GPS จะคำนวณเวลาในการเดินทาง พร้อมระยะทางในการเดินทางและเวลาที่จะถึงจุดหมายครับ หลังจากนั้นให้กดปุ่มลูกศรนำทางสีดำ (บริเวณด้านล่างขวาของหน้าจอมือถือ) เท่านี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ ตัวแอปพลิเคชั่นจะเชื่อมต่อไปยังหน้าจอของจักรยานไฟฟ้าของเราเพื่อบอกรายละเอียดการเดินทางครับ
Speed Sensor VS Torque Sensor
Speed Sensor ใช้วิธีตรวจวัดรอบของการปั่น เมื่อมีการปั่นครบรอบมอเตอร์จะส่งกำลังให้ทันทีครับ ทำให้เป็นการปั่น ทำให้มีข้อดีคือใช้งายและใช้กำลังในการปั่นน้อยครับ และมอเตอร์จะให้กำลังไฟที่สูงและสม่ำเสมอโดยไม่วัดแรงปั่นของเราครับ Torque Sensor ใช้วิธีตรวจจับแรงปั่นที่ส่งเข้ามา และมอเตอร์จะส่งกำลังไฟช่วยในระดับที่เหมาะสมกับแรงปั่นของเราครับ ข้อดีคือได้การขับขี่ที่เสมือนกับขับจักรยานจริง ๆ แต่ใช้แรงน้อยกว่ามาก และได้ความรู้สึกของกำลังไฟที่พอดีไม่กระชากเกินไปครับ
รุ่นนี้วิ่งได้นานแค่ไหน?
สำหรับระยะการใช้งานเราจะดูเป็นระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งครับ โดย ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นชาร์จ 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 50 กม./ชาร์จ ขณะที่วิ่งในโหมดบิดอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นในโหมดปั่นจักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 100 กม./ชาร์จ เลยครับ
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นกันน้ำไหม?
กันได้ครับเนื่องจากตัวเครื่องมีระดับความสามารถในการกันน้ำของตัวเครื่องและแบตเตอรี่อยู่ที่ IPX5 และหน้าจอมีความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ระดับ IPX7 โดย IPX5 นั้นหมายถึงมีความสามารถในการกันน้ำจากการฉีดน้ำด้วยสายยางแรงดันต่ำได้อย่างน้อย 3 นาที และ IPX7 หมายถึงมีความสามารถในการกันน้ำจากการแช่น้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรได้ 30 นาทีด้วย 2 คุณสมบัตินี้ทำให้จักรยานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถขับขี่ในเวลาฝนตกในกรณีฉุกเฉินได้ระยะนึงครับ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวเครื่องและตัวผู้ขับขี่เองครับ
ADO A20 ทั้ง 2 รุ่นสามารถปรับความเร็วได้ไหม?
เบื้องต้นขออธิบายสำหรับในจักรยานไฟฟ้า ADO A20 ทั้งรุ่น Lite และรุ่น Air จะสามารถเลือกขับขี่แบบบิดหรือแบบปั่นได้ ในกรณีเลือกขับขี่แบบบิดจะมีความเร็วเดียวคือ 30 กม./ชม. และไม่สามารถปรับได้ครับ แต่ในกรณีปั่นตัวจักรยานจะมีระบบช่วยปั่นโดยมีการส่งกำลังมากจากมอเตอร์ไฟฟ้าหรือที่เรียกว่า Pedal Assist Mode (PAS) โดยในกรณีปั่นจะสามารถเลือกปรับระดับการทำงานของโหมดช่วยปั่นได้ถึง 3 ระดับผ่านบนหน้าจอหรือผ่านแอปพลิเคชั่นครับ
ADO A20 Lite กับ ADO A20 Air ต่างกันตรงไหนบ้าง? เลือกรุ่นไหนดี?
ADO A20 Lite และ ADO A20 Air มีจุดแตกต่างในการใช้งานอยู่ 3 จุดครับ อย่างแรกคือเซนเซอร์ตรวจจับการปั่น รุ่น Lite จะใช้เป็น Speed Sensor, รุ่น Air จะใช้เป็น Torque Sensor ครับ อย่างที่สองคือประเภทเบรก รุ่น Lite จะใช้เป็นดิสก์เบรกคู่ ส่วนรุ่น Air จะใช้เป็นไฮดรอลิกดิสก์เบรกคู่ และอย่างสุดท้ายคือน้ำหนักครับ รุ่น Lite มีน้ำหนัก 19 กก. และรุ่น Air มีน้ำหนัก 18 กก. โดยรวมแล้วในส่วนของประเภทเบรกและน้ำหนัก แน่นอนว่ารุ่น Air มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีกว่าครับ ส่วนเซนเซอร์การปั่นขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลครับถ้าอยากเน้นปั่นนิดเดียวแล้วมอเตอร์ออกแรงให้ยาว ๆ แนะนำรุ่น Lite เลยครับ แต่ถ้าอยากได้ความรู้สึกที่เหมือนปั่นจักรยานจริง ๆ แต่ไม่เหนื่อยแนะนำเป็นรุ่น Air ครับ
หาเราเจอแน่นอนด้วยตัวแทนจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมศูนย์บริการใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมให้บริการคุณ
อยากได้จักรยานไฟฟ้าสักคัน ซื้อที่ไหนดี? ถึงจะได้จักรยานไฟฟ้ารุ่นที่ใช่ และมั่นใจว่าจะได้สินค้าคุณภาพดี MONOWHEEL พร้อมแนะนำจักรยานไฟฟ้าและให้คุณเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าที่ใช่ได้ง่าย ๆ
อ่านต่อมีวิธีไหนบ้างที่จะดูแลไม่ให้แบตจักรยานไฟฟ้าเสื่อมเร็วกว่าปกติ และสามารถใช้งานได้ยาวๆ เพราะการลงทุนซื้อจักรยานไฟฟ้ามาแล้วทั้งทีก็อยากจะใช้งานไปนานๆ วันนี้ MONOWHEEL เลยจะมาแชร์เทคนิคที่ถูกต้อง
อ่านต่อพามาดู!!! แบตเตอรี่จักรยานไฟฟ้าไอเทมสำคัญที่ช่วยสร้างความต่างระหว่างจักรยานไฟฟ้าและจักรยานทั่วไป ว่าแต่ต้องเลือกใช้แบบไหนถึงจะเหมาะและตอบโจทย์มากที่สุดในยุคนี้ พร้อมเคล็ดลับการดูแลแบตมาฝากทุกคนด้วย
อ่านต่อวันนี้ MONOWHEEL มีจักรยานไฟฟ้าแบรนด์ดี ดีไซน์เก๋มาแนะนำ เป็นจักรยานไฟฟ้าที่ชาร์จแบตสะดวก น้ำหนักเบา ชาร์จเต็มเร็ว พอถึงเวลาชาร์จไม่ต้องเข็นจักรยานไปทั้งคัน ถ้าอยากรู้ว่าเลือกรุ่นไหนดี ตามไปดูกัน
อ่านต่ออยากได้จักรยานไฟฟ้าราคาดีคุณภาพโดนใจมาใช้สักคัน แต่หาข้อมูลเท่าไรก็ยังเลือกไม่ได้สักที วันนี้ MONOWHEEL เลยรวบรวม 5 จักรยานไฟฟ้าราคาดี แถมมาพร้อมฟังก์ชันปัง ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตของทุกคนง่ายขึ้น
อ่านต่อสำหรับใครที่กำลังหาจักรยานไฟฟ้าผู้ใหญ่ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนเด่น MONOWHEEL มีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบที่พับได้และพับไม่ได้ พร้อมฟังก์ชันหลาย ๆ แบบที่ต่างกันออกไป ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
อ่านต่อนี่คือหนึ่งในจักรยานไฟฟ้าพรีเมี่ยมที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้ ดีไซน์สวย งานประกอบดี ฟีเจอร์ล้ำ ๆ ครบจบในคันเดียว
อ่านต่อ