16 KM/H MAX SPEED
17 KM DISTANCE
ADJUSTABLE STEM
BUILT-IN BLUETOOTH SPEAKER
256 COLORS RGB AMBIENT LIGHT
3 RIDING MODES
1-STEP FOLDING, EASY TO CARRYING
7" INNNER HOLLOW TIRES
ใหม่! Ninebot eKickScooter C2 Series สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับเด็กซีรีส์ใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Segway-Ninebot มีการออกแบบให้ทันสมัยและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมีการปรับให้ศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อการขับขี่ที่ง่ายยิ่งขึ้น และทำให้ทุกการขับขี่เต็มไปด้วยประสบการณ์แสนพิเศษ โดย Ninebot C2 Series ประกอบด้วยรุ่น C2 และ C2 Pro
การเดินทางของเหล่าเด็ก ๆ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะ Ninebot C2 Series จะกลายเป็นเหมือนพาหนะคู่กายสำหรับจำลองการออกไปท่องโลกกว้างด้วยตัวเอง เปลี่ยนพื้นที่รอบตัวให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นในทันที พร้อมเสริมสร้างพัฒนาการในด้านร่างกายและสมองจากการขับขี่และควบคุมเจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตัวป่วน
เพื่อให้เหมาะสมของน้อง ๆ หนู ๆ ผู้ขับขี่ในทุกสรีระเหมือนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเติบโตไปพร้อมกับเด็ก ๆ Ninebot C2 Pro มาพร้อมฟังก์ชั่นการปรับระดับความสูงของลำคอ สามารถปรับได้ง่ายผ่านตัวล็อกแบบ Quick Release โดยสามารถปรับได้ 3 ระดับ โดยระดับต่ำสุดจะมีความสูงตั้งแต่พื้นถึงแฮนด์จับอยู่ที่ 88.5 ซม. ระดับกลางจะมีความสูงอยู่ที่ 96 ซม. ระดับสูงสุดจะมีความสูงอยู่ที่ 103.5 ซม. โดยสามารถรองรับส่วนสูงผู้ขับขี่ได้ตั้งแต่ 115 ซม. - 170 ซม.
Ninebot C2 Pro มีการติดตั้งหน้าจอมาให้ในตัวและเป็นหน้าจอแบบใหหม่ขนาด 2.8 นิ้ว เพื่อใช้ในการบอกสถานะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ขับขี่อยู่ โหมดการขับขี่ ปริมาณแบตเตอรี่ และไอคอนแสดงสถานะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อบลูทูธหรือการล็อกเครื่อง โดยหน้าจอสุดอัจฉริยะนี้จะมีปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียวตรงกลางหน้าจอ โดยสามารถกด 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้
ถึงแม้ Ninebot C2 จะไม่มีหน้าจอสำหรับบอกสถานะ แต่ยังคงดีไซน์ให้มีความสบายในการควบคุม เพราะใช้สวิตช์สารพัดประโยชน์ในฝั่งขวา โดยเมื่อกดค้างจะเป็นการ เปิด - ปิดเครื่อง กดสองครั้งติดกัน เป็นการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ และกดสามครั้งติดกันเป็นการเปิด - ปิดไฟนั่นเอง
Ninebot C2 มีความพิเศษกว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเด็กคันไหน ๆ เพราะใต้ท้องเครื่องมีการติดตั้งไฟ RGB Ambient Light มาให้ด้วย โดยรูปแบบการทำงานของไฟจะเปลี่ยนการทำงานตามโหมดการขับขี่ และสามารถตอบสนองการทำงานตามความเร็วในการขับขี่ได้อีกด้วย สร้างความเพลิดเพลินตลอดการขับขี่ และเมื่อเราต้องการปิดไฟ เพียงแค่กดสวิตช์ที่คันเร่ง 3 ครั้งจะสามารถปิดไฟได้ทันที
จัดเต็มทั้งแสง สี และเสียง นอกจากจะมีไฟ RGB Ambient Light แล้ว Ninebot C2 Pro ยังมีการ Built-in Bluetooth Speaker ติดตั้งลำโพงแบบบลูทูธมาให้ในตัว สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธกับเครื่องมือสื่อสารและเปิดเพลงผ่านเจ้า Ninebot C2 Pro ได้เลย โดยสำหรับ C2 Pro ฟีเจอร์ RGB Ambient Light จะตอบสนองตามเสียงดนตรีได้อีกด้วย เรียกว่าจัดเต็มฟีเจอร์ในแบบที่ว่าเด็ก ๆ ใช้ ผู้ใหญ่ชอบกันเลยทีเดียว
เพื่อการขับขี่ที่เหมาะสมกับแต่ละคนทำให้ Ninebot C2 Series สามารถเปลี่ยน โหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมดการขับขี่ด้วยกัน ซึ่งเริ่มจากโหมดที่มีความ เร็วต่ำที่สุดเพื่อให้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นและยังไม่ชิน ไปจนถึงโหมด ที่ทำความเร็วสูงสุดเพื่อความสนุกในขั้นสูงสุดเลย
- Standard Mode : 12 กม/ชม.
- Sport Mode : 16 กม/ชม
- Power-Assisting Mode : 16 กม/ชม.*
*โหมดสำหรับคงความเร็วโดยที่ไม่ต้องกดคันเร่ง
หากเราต้องการเปลี่ยนโหมดการขับขี่เราสามารถทำได้เพียงกดที่ปุ่มเปิด - ปิด 2 ครั้งติดกันนั่นเอง
สำหรับ Ninebot C2 ติดตั้งสัญญาณไฟอัจฉริยะสำหรับคอยบอกโหมดการขับขี่เพื่อบ่งบอกสถานะการขับขี่ไว้ที่ด้านหน้าของแท่นเหยียบ โดยสัญญาณไฟจะกะพริบในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
Standard Mode : กะพริบแบบช้า
Sport Mode : กะพริบแบบเร็ว
Power-Assisting Mode : สว่างตลอดเวลา
นอกจากสัญญาณไฟจะใช้บอกโหมดการขับขี่ได้แล้ว ยังสามารถใช้บอกปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้อีกด้วย โดยสีของไฟจะเปลี่ยนตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือ ดังนี้
มากกว่า 50% : สีขาว
10% ถึง 50% : สีเหลือง
น้อยกว่า 10% : สีแดง
Segway-Ninebot คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานเป็นอันดับแรก โดยเฟรมรอบตัว เครื่องทำจากเหล็กกล้าเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และผ่านการทดสอบการกระแทกกว่า 100 ครั้ง และการทดสอบใช้งาน จริงกว่า 3,000 กม. ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวเครื่องของ Ninebot C2 Series มีความแข็งแรงและมั่นคงที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่เกิดการ แตกหักในการขับขี่แน่นอน
ผู้ปกครองหลายท่านอาจกังวลว่าหากล้อยางเกิดการรั่วซึมและอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ ผู้ขับขี่ ความกังวลข้อนี้จะหายไปทันทีเพราะยาง ของ Ninebot C2 Series ไม่ใช่ยางธรรมดาแต่เป็นยาง Inner Hollow Tires หรือยางตันชนิดพิเศษ มีขนาด 7 นิ้ว โดยยางชนิดนี้มีการดีไซน์ให้ด้านในกลวงเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาและช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังไม่ต้องเติมลมและไม่มีปัญหา เรื่องการรั่วซึมอย่างแน่นอน
Ninebot C2 Series ไม่เหมือนกับสกู๊ตเตอร์สำหรับเด็กรุ่นอื่น ๆ เนื่องจากมี การติดตั้งดรัมเบรกแทนการใช้งานเบรกโดยการเหยียบบังโคลน โดยสามารถใช้งานดรัมเบรกได้ผ่านการกำเบรกตรงบริเวณแฮนด์ ซึ่งเบรกจะตอบสนองทันที และจะให้ความรู้สึกในการเบรกที่นิ่มนวล ไม่กระชาก และใช้ระยะเบรกที่สั้น ทำให้เบรกได้อย่างสนิทและปลอดภัย
แบตเตอรี่ของ Ninebot C2 Series ใช้เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูงและมาพร้อมระบบ BMS (Battery Management System) ระบบตรวจการทำงานของวงจรไฟฟ้าสุดอัจฉริยะที่คอยควบคุมการทำงานของวงจรไฟฟ้าในแบตเตอรี่ ป้องไม่ให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
1. ป้องกันอุณภูมิที่สูงจนเกินไป จนนำไปสู่การเกิดไฟไหม้
2. ป้องกันไฟช็อต
3. ป้องกันการจ่ายไฟที่มากเกินไปสู่แบตเตอรี่ที่เป็นผลมาจากสายชาร์จเกิดความเสียหาย
4. ระหว่างการชาร์จไฟ หากแบตเตอรี่ได้ปริมาณไฟเต็ม 100% แล้ว BMS จะทำหน้าที่ตัดกระแสไฟไม่ให้แบตเตอรี่รับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่มากเกินไป
5. ป้องกันการจ่ายไฟจากเซลล์แบตเตอรี่ที่มากเกินไประหว่างการใช้งาน
6. ป้องกันไม่ให้แรงดันไฟฟ้าในเซลล์แบตเตอรี่ตกจนนำไปสู่การเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ตัวแบตเตอรี่ยังให้การกันน้ำที่ IPX6 อีกด้วย
Ninebot C2 Series ได้ใส่กลไกสำหรับการพับมาให้ด้วย โดยเป็นระบบล็อกแบบสองชั้นที่ถูกออกแบบมาให้พับได้โดยง่าย ทำให้น้อง ๆ หนู ๆ สามารถพับเองได้ด้วยตัวคนเดียว เพียงแค่ใช้นิ้วดันสลักล็อกขึ้นค้างไว้และดันตัวล็อกออก เท่านี้ก็จะสามารถพับได้ นอกจากนี้ตรงกระดิ่งยังมีเกลียวสำหรับนำมาล็อกที่แง่งตรงบังโคลนท้ายได้อีกด้วย เท่านี้เจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเราจะอยู่ในสภาพการพับสำหรับการพกพาในทันที
เนื่องจาก Ninebot C2 สามารถพับได้ ทำให้การพกพาไปยังที่ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการใส่หลังรถด้วย โดย Ninebot C2 มีขนาดหลังพับ (ยาว x กว้าง x สูง) อยู่ที่ 91 x 40 x 50 ซม. เท่านั้น การพกพาติดหลังรถไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป
เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองและความปลอดภัยของเด็ก ๆ ทำให้ Ninebot C2 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ Limited Speed of Children หรือการปรับและล็อกความเร็วสูงสุดได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot โดยสามารถปรับได้ตั้งแต่ 5 กม/ชม. จนถึงสูงสุดที่ 16 กม/ชม.
ชื่อรุ่น
Segway-Ninebot eKickScooter C2 Pro
ราคา
ความเร็วสูงสุด
16 กม/ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
17 กม/ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium 5Ah
มอเตอร์
260 วัตต์
ประเภทยาง
7" ยางตัน Inner Hollow Tires
ชื่อรุ่น
Segway-Ninebot eKickScooter C2
ราคา
ความเร็วสูงสุด
16 กม/ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
11 กม/ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium 2.5 Ah
มอเตอร์
160 วัตต์
ประเภทยาง
7" ยางตัน Inner Hollow Tires
Ninebot C2 Pro เหมาะสำหรับเด็กอย่างเดียว?
เนื่องจาก Ninebot C2 Pro สามารถปรับความสูงของลำคอได้ ทำให้สำหรับคุณผู้หญิงสามารถขับขี่ได้เช่นเดียวกันครับ หากมีน้ำหนักและส่วนไม่เกินตามที่คู่มือแนะนำครับ (Ninebot C2 Pro แนะนำส่วนสูงอยู่ที่ 115 ซม. - 170 ซม. และมีการแนะนำน้ำหนักผู้ขับขี่ไม่เกิน 60 กก.)
Ninebot C2 และ C2 Pro เหมาะกับเด็กส่วนสูงเท่าไหร่?
สำหรับ Ninebot C2 แนะนำส่วนสูงผู้ขับขี่อยู่ที่ 120 ซม. - 160 ซม. ครับ ส่วน C2 Pro เนื่องจากสามารถปรับความสูงของลำคอได้จึงมีระยะส่วนสูงที่เยอะกว่าครับ จะแนะนำตั้งแต่ 115 ซม. - 170 ซม. แต่จริง ๆ แล้วส่วนสูงเกินสามารถขับขี่ได้ครับ ทั้งนี้แนะนำให้มาลองขับขี่ที่ศูนย์บริการจะดีที่สุดครับจะได้รู้ว่าขับแล้วรู้สึกโอเคไหม เข้ากับผู้ขับขี่ได้ไหมเครื่องเล็กหรือใหญ่เกินไปหรือเปล่า
Ninebot C2 Series มีประกันไหม?
สำหรับรุ่น Ninebot C2 Series มีประกันที่ตัวเครื่องและมอเตอร์ 1 ปีครับ และประกันที่แบตเตอรี่ 6 เดือน ครับแต่หมดประกันแล้วหากเครื่องมีปัญหาสามารถส่งซ่อมกับทางเราได้ตลอดอายุการใช้งานเลยครับ
มีข้อควรระวังในการใช้งาน Ninebot C2 Series ไหม?
ไม่แนะนำให้ขับขี่ Ninebot C2 Series ในขณะที่ฝนตกครับถึงแม้ตัวเครื่องและแบตเตอรี่จะมีมาตรฐานรองรับในการกันน้ำและกันฝุ่นแต่หากตัวเครื่องเกิดปัญหาที่มาจากน้ำเข้า กรณีนี้จะอยู่นอกเหนือของประกันครับ
ดูปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลือได้อย่างไร?
สำหรับ Ninebot C2 สามารถเช็กปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือคร่าว ๆ ได้ที่ไฟบริเวณด้านหน้าของแท่นเหยียบครับโดยสีของไฟจะใช้แทนปริมาณของแบตเตอรี่ที่คงเหลือครับ หากไฟเป็นสีขาวแสดงว่าแบตเตอรี่เหลือตั้งแต่ 50% ขึ้นไป หากไฟเป็นสีเหลืองแสดงว่าแบตเตอรี่คงเหลืออยู่ที่ 10% - 50% และหากไฟเป็นสีแดงแสดงว่าแบตเตอรี่คงเหลืออยู่ต่ำกว่า 10% ครับ ส่วน Ninebot C2 Pro จะดูปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้ผ่านหน้าจอครับ
รับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ น้ำหนักเกินสามารถขับขี่ได้ไหม?
สำหรับ Ninebot C2 จะมีการเคลมน้ำหนักผู้ขับขี่สูงสุดอยู่ที่ 50 กก. ครับ ส่วน Ninebot C2 Pro จะมีการเคลมน้ำหนักอยู่ที่ 60 กก. ครับ แต่จริง ๆ แต่ต่อให้น้ำหนักเกินสามารถขับขี่ได้ตามปกติครับ เพียงแต่ความเร็วและระยะทางอาจจะลดลงครับ แต่ในด้านการขับขี่และใช้งานอื่น ๆ สามารถใช้ได้ตามปกติเลยครับ
หาเราเจอแน่นอนด้วยตัวแทนจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมศูนย์บริการใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมให้บริการคุณ