☑️ โช้คหน้าไฮดรอลิกและโช้คหลังสปริงคู่ (ปรับ Preload ได้) เพิ่มการขับขี่ที่นุ่มนวลสุด ๆ ในทุกพื้นผิว
☑️ หมดกังวลเรื่องเครื่องหายด้วย Apple Find My
☑️ ระบบ Traction Control ป้องกันล้อสะบัดเมื่อขับบนพื้นที่ลื่น
RANGE UP TO 70 KM
35 KM/H TOP SPEED
FRONT&REAR SHOCKS ABSORBER
10" TUBELESS SELF-HEALING TIRES
APPLE FIND MY
BUILT-IN TURN SIGNAL
RideyLONG
BUILT-IN ADAPTER
Ninebot MAX G2 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ล่าสุดเปิดให้จองได้แล้ววันนี้ พิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองภายในช่วงเปิดตัว รับเลยส่วนลดเงินสดมูลค่า 3,000.- เหลือเพียง 42,900.- เท่านั้น (จากราคาปกติ 45,900.-)
Ninebot KickScooter MAX G2 ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างการเดินทางอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ที่ปรับปรุงใหม่ให้มีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่และมั่นคงแข็งแรงขึ้นแต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ สอดแทรกด้วยการติดตั้งระบบไฟเลี้ยวและระบบโช้คในตัว ตามด้วยเทคโนโลยีอย่าง Traction Control และ RideyLONG พร้อมปลดลิมิตการขับขี่ของทุกคนให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
Ninebot MAX G2 ถูกพัฒนาให้การขับขี่นุ่มสบายมากยิ่งขึ้นโดยการใส่โช้คที่บริเวณล้อหน้าและล้อหลัง โดยบริเวณล้อหน้าจะเป็นโช้คแบบไฮดรอลิกและด้านหลังเป็นโช้คสปริงคู่ที่สามารถปรับระดับให้เหมาะสมกับการขับขี่บนแต่ละพื้นผิวได้ ซึ่งทำให้ MAX G2 ให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะขับขี่กว่ารุ่นก่อน
Ninebot MAX G2 เป็นรุ่นที่ขับสบายเพราะมาพร้อมกับล้อยางลมแบบไม่มียางในที่มีขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว และที่พิเศษไปกว่านั้นคือด้านในของยางจะถูกเคลือบไปด้วยสารกันรั่วซึมที่ทำหน้าที่ป้องกันการรั่วซึมที่เกิดจากการเจาะโดยมีขนาดของความเสียหายไม่เกิน 4 มม. [ดูวีดีโออธิบาย]
Ninebot MAX G2 มีการติดตั้งไฟเลี้ยวมาให้ในตัวโดยจะอยู่ที่บริเวณปลายแฮนด์ ออกแบบให้มองเห็นทั้งด้านหน้าและด้านหลังทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนตามมาตรฐาน E-MARK ประเภท E32 ซึ่งเป็นมาตรฐานจากสหภาพยุโรปสำหรับรองรับมาตรฐานของระบบไฟส่องสว่างว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot MAX G2 มีระบบไฟเลี้ยวที่สว่างชัดเจนเมื่อมีการเปิดใช้งานในเวลากลางวันหรือกลางคืน โดยมีปุ่มเปิด-ปิดการใช้งานอยู่ที่ฝั่งด้านซ้ายของแฮนด์ ทำให้เปิด-ปิดการใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยต่อการขับขี่
Ninebot MAX G2 มาพร้อมกับไฟหน้าส่องสว่างกำลัง 2.1 W สามารถส่องสว่างได้ระยะไกลสุดถึง 13.5 เมตร มองเห็นทางข้างหน้าสว่างชัดเจนเวลากลางคืนตามมาตรฐาน E-MARK ประเภท E32 ซึ่งเป็นมาตรฐานจากสหภาพยุโรปสำหรับรองรับมาตรฐานของระบบไฟส่องสว่างว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot MAX G2 มีระบบไฟหน้าที่สว่างชัดเจนเมื่อมีการเปิดใช้งานในเวลากลางคืนเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ขณะใช้งาน
ไฟเบรกด้านหลังขนาดใหญ่ ตามมาตรฐาน E-MARK ประเภท E32 ซึ่งเป็นมาตรฐานจากสหภาพยุโรปสำหรับรองรับมาตรฐานของระบบไฟส่องสว่างไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า, ไฟเลี้ยวหรือไฟเบรกในยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ดั้งนั้นจึงเป็นมาตรฐานที่สำคัญสำหรับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าว่า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot MAX G2 มีระบบไฟเบรกที่สว่างชัดเจนเมื่อมีการเปิดใช้งานในเวลากลางวันหรือกลางคืนเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ขณะใช้งาน
Ninebot MAX G2 มาพร้อมกับ Key Feature สุดพิเศษอย่างการรองรับการใช้งานฟีเจอร์ Apple Find My ฟีเจอร์สำหรับใช้ค้นหาตำแหน่งของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเรา ซึ่ง Apple Find My มีเครือข่ายทั่วโลกเพียงแค่เราเปิดการใช้งานฟังก์ชั่น Find My ในแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot และเชื่อมต่อกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณ เพียงแค่นี้คุณสามารถหาตำแหน่งของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว
*รองรับเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เท่านั้น [ดูวีดีโออธิบาย]
Ninebot KickScooter MAX G2 มีการนำโมเดลเดิมมาพัฒนาใหม่ โดยตัวเครื่องมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมและความสูงมีขนาดเพิ่มขึ้นเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
Handlebar ของ Ninebot MAX G2 มีการปรับให้มีความยาวเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% เพื่อให้การจับการควบคุมเป็นไปได้ง่ายและสบายกว่าเดิมรวมถึงเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้มากขึ้น
ปรับให้ฐานเหยียบของ Ninebot MAX G2 มีขนาดที่กว้างกว่าเดิมโดยในรุ่นนี้จะมีฐานเหยียบ 18 ซม. เพื่อให้ได้ท่ายืนที่ถูกต้องตามหลัก Ergonomic ยืนได้สบายกว่าเดิมเวลาขับขี่ ส่วนท้ายของฐานเหยียบมีการปรับให้มีความโค้งขึ้นให้เป็นไปตามหลัก Aerodynamic ทำให้การขับขี่มีความคล่องแคล่วและลู่ลม มากยิ่งขึ้น
หน้าจอของ Ninebot MAX G2 ยังคงเป็นหน้าจอ LED สว่างและมองเห็นทั้งเวลากลางวันและกลางคืนแสดงรายละเอียดที่จำเป็นต่อการขับขี่ได้อย่างชัดเจน รวมถึงมีการวางปุ่มไว้บนหน้าจอเพียงปุ่มเดียวที่ครอบคลุมการใช้งานทุกฟีเจอร์ที่สำคัญ
พิเศษ! Ninebot MAX G2 ได้มีการติดตั้งแตรไฟฟ้ามาให้ สามารถส่งเสียงเตือนเพื่อนร่วมทางได้ดังกว่าเดิม นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงของสัญญาณกันขโมยอีกด้วย
Ninebot MAX G2 มาพร้อมกับมอเตอร์ล้อหลังแบบไร้แปลงถ่านที่สามารถส่งกำลังได้สูงสุดถึง 900W ทำให้ Ninebot MAX G2 คันนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 35 กม./ชม. และสามารถวิ่งขึ้นทางลาดชันได้ถึง 22%
Segway-Ninebot ตั้งใจพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางจนเกิดขึ้นมาเป็นเทคโนโลยี RideyLONG โดยมีการปรับปรุงการทำงานของมอเตอร์, ใช้ยางแบบใหม่, ปรับ Algorithm ของ Controller เพื่อให้ MAX G2 วิ่งได้ไกลถึง 70 กม. ต่อการชาร์จโดยใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเพียงแค่ 551 Wh (15.3 Ah)
เร็วแค่ไหนก็ไม่หวั่นเพราะ MAX G2 มีการติดตั้งระบบเบรกให้เป็นระบบเบรกคู่ โดยล้อหน้าจะเป็นดรัมเบรกง่ายต่อการใช้งานและการดูแลรักษา ล้อหลังเป็นเบรกไฟฟ้าด้วยการทำงานควบคู่ของ 2 ระบบนี้ทำให้ระยะเบรกสั้นลงและยังสามารถปั่นกระแสไฟกลับเข้าสู่เซลล์แบตเตอรี่เมื่อมีการเบรกหรือชะลอความเร็ว
Ninebot MAX G2 ได้มีการติดตั้ง Traction Control System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Algorithm ควบคุมกำลังมอเตอร์ให้เหมาะสมกับทุกจังหวะของการขับขี่ เพื่อลดการเกิดอาการล้อฟรีและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนมากยิ่งขึ้น ทำให้ทุกการขับขี่เต็มไปด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น [ดูวีดีโออธิบาย]
*โดยฟีเจอร์นี้สามารถปรับได้ในแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot
การชาร์จไฟของ Ninebot MAX G2 ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์เหมือนรุ่นก่อนคือเป็นแบบ Built-In Charger พกเพียงแค่สายชาร์จก็สามารถชาร์จที่ไหนก็ได้แต่ที่พิเศษขึ้นมากว่ารุ่นก่อนคือช่องชาร์จไฟของ MAX G2 เป็นแบบ Built-in 3A Fast Charger ทำให้การชาร์จจาก 0 ถึง 100% เพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น
ระบบแบตเตอรี่ของ Ninebot MAX G2 มาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะอย่าง Battery Management System เพื่อความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ได้
1. ป้องกันอุณภูมิที่สูงจนเกินไป จนนำไปสู่การเกิดไฟไหม้
2. ป้องกันไฟช็อต
3. ป้องกันการจ่ายไฟที่มากเกินไปสู่แบตเตอรี่ที่เป็นผลมาจากสายชาร์จเกิดความเสียหาย
4. ระหว่างการชาร์จไฟ หากแบตเตอรี่ได้ปริมาณไฟเต็ม 100% แล้ว BMS จะทำหน้าที่ตัดกระแสไฟไม่ให้แบตเตอรี่รับประมาณกระแสไฟฟ้าที่มากเกินไป
5. ป้องกันการจ่ายไฟจากเซลล์แบตเตอรี่ที่มากเกินไประหว่างการใช้งาน
6. ป้องกันไม่ให้แรงดันไฟฟ้าในเซลล์แบตเตอรี่ตกจนนำไปสู่การเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
7. ควบคุมปริมาณกระแสไฟในเซลล์แบตเตอรี่ที่เกิดจากการชาร์จให้เป็นไปตามที่เรากำหนดในแอปพลิเคชั่น เพื่อรักษาอายุการใช้งานของเซลล์แบตเตอรี่
ขับขี่ปลอดภัย ไม่กลัวน้ำขังเพราะ Ninebot MAX G2 มาพร้อม มาตรฐาน IP โดยมีระดับ IPX5 ที่ตัวเครื่องและระดับ IPX7 ที่แบตเตอรี่ ทำให้การขับขี่ผ่านแอ่งน้ำหรือการโดนน้ำกระเซ็นใส่ ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ถึง Ninebot MAX G2 จะมาพร้อมขนาดที่ใหญ่มากขึ้น แต่ยัง สามารถพับคอและล็อกเครื่องได้ดังเดิม และล็อกคอเป็นสลักล็อก แบบใหม่ แข็งแรงและมั่นคงกว่าเดิม ล็อกง่ายแค่ 3-Steps เมื่อตั้ง คอขึ้น ตัวล็อกจะล็อก ให้อัตโนมัติและสามารถดันเพื่อล็อก อีกระดับได้ เวลาจะปลดล็อกก็เช่นกัน
เนื่องจาก Ninebot MAX G2 สามารถพับคอและล็อกตัวเครื่องได้ทำให้มีขนาดกระทัดรัดประหยัดพื้นที่ในการเก็บ
ปรับการขับขี่อย่างชาญฉลาดได้ด้วยการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot โดยภายในแอปสามารถปรับแต่งฟีเจอร์ได้ทั้ง
- การล็อก/ปลดล็อกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
- ดูข้อมูลต่างๆของการขับขี่และปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ
- ตั้งลิมิตการชาร์จแบตเตอรี่ได้
- เปิด/ปิด Cruise Control ได้
- ปรับระดับการทำงานของเบรกไฟฟ้าได้
- ปรับแต่งอัตราเร่งได้
ควบคุมระบบต่าง ๆ ของตัวเครื่อง
บันทึกเส้นทางการใช้งาน
อัปเดต Firmware ตัวเครื่อง
Rider’s Social Network
ชื่อรุ่น
Segway-Ninebot MAX G2
ราคา
ความเร็วสูงสุด
35 กม./ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
70 กม./ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium-ion 15.3 Ah
กำลังมอเตอร์สูงสุด
900 วัตต์
ประเภทยาง
10" ยางลมแบบไม่มียางในพร้อมเคลือบสารกันรั่วซึม
ชื่อรุ่น
Segway-Ninebot MAX
ราคา
ความเร็วสูงสุด
30 กม./ชม.
ระยะทางต่อชาร์จ
65 กม./ชาร์จ
แบตเตอรี่
Lithium 15.3 Ah
กำลังมอเตอร์สูงสุด
700 วัตต์
ประเภทยาง
10" ยางลมแบบไม่มียางในพร้อมสารกันรั่วซึม
กรณีปิดเครื่อง ระบบ Find My จะทำงานหรือไม่?
แอปพลิเคชั่น Find My จะเชื่อมต่ออยู่กับ Bluetooth โดยที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเรามีแบตเตอรี่ตัวเล็กแยกในตัว ซึ่งจะทำงานด้วยการที่แบตเตอรี่ตัวเล็กจะรับกระแสไฟจากแบตเตอรี่ตัวใหญ่มาเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ตัวเล็ก และแบตเตอรี่ตัวเล็กจะทำการปล่อยกระแสไฟอ่อนๆเพื่อให้ระบบ Bluetooth ทำงานอยู่ตลอดเวลาแม้จะดับรถไปแล้ว *กรณีใช้รถจนแบตหมด 0% แบตเตอรี่ตัวเล็กก็จะหมดไปด้วย Bluetooth จะดับไปด้วยครับ
MAX G2 เหมาะกับใคร
สำหรับรุ่นนี้ถ้าให้แนะนำจะเป็นรุ่นที่เหมาะกับคนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ไว้ใช้เดินทางในชีวิตประจำวันเป็นหลักโดยไม่ผ่านระบบขนส่งสาธารณะครับ เพราะตัวเครื่องมีนำ้หนักอยู่พอสมควรจึงอาจจะไม่เหมาะกับการยกพกพาเท่าไหร่ครับ แล้วก็เป็นรุ่นที่เหมาะกับคนที่ไม่อยากชาร์จบ่อยเพราะรุ่นนี้ขาร์จ 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 70 กม./ชาร์จครับ
MAX G2 สามารถขับขี่ลุยฝนได้ไหม?
สำหรับ Ninebot MAX G2 ตัวเครื่องมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำอยู่ที่ระดับ IPX5 คือสามารถป้องกันน้ำที่ฉีดด้วยแรงดันต่ำอย่างน้อย 3 นาที และในส่วนของแบตเตอรี่มีมาตรฐานกันน้ำอยู่ที่ IPX7 ก็คือสามารถป้องกันผลกระทบจากการแช่น้ำลึก 1 เมตรนาน 30 นาที จึงทำให้สามารถตอบได้เลยว่า Ninebot MAX G2 สามารถขับขี่ลุยฝนในกรณีฉุกเฉินได้ครับ แต่อยากให้หลีกเลี่ยงกันนะครับเพราะความเสียหายที่เกิดจากนำ้จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
Apple Find My ทำงานอย่างไร?
การทำงานของ Apple Find My ใน Ninebot MAX G2 นั้นทำงานเหมือนเป็น Apple Device ชิ้นหนึ่งเลยครับ โดยการเชื่อมต่อสามารถทำได้ง่ายมากผ่านแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot มีขั้นตอนการทำงานดังนี้ -> เปิดแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot ไปที่ เมนู Settings - เข้าไปที่ Segway-Ninebot Lab -> เลือก Locating KickScooter -> เลือก Find My Function -> กด Pairing กับ App Find My -> เราจะ Switch มาที่ App Find My ทำการค้นหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเรา -> ตั้งชื่อ และ ใส่ไอคอน ถือเป็นการเชื่อมต่อเสร็จสิ้น ต่อไปนี้เวลาจอดสกู๊ตเตอร์ไว้ตรงไหนก็สามารถค้นหน้าด้วยฟีเจอร์ Find My ยังไงก็หาเจอแน่นอน
นอกจากหน้าตากับสเปคทั่วไปแล้วมีอะไรที่แตกต่างจาก Ninebot MAX อีกบ้าง?
นอกจากหน้าตาและสเปคที่เปลี่ยนไปแล้ว ทาง Segway-Ninebot ยังได้ใส่ฟีเจอร์อื่นๆที่ไม่มีใน Ninebot MAX เพิ่มเข้ามาเช่น ระบบ Apple Find My, ระบบ Traction Control, การตั้ง Limit การชาร์จแบตเตอรี่ (เพื่อยืดอายุดารใช้งานของแบตเตอรี่), การปรับแต่งอัตราเร่งของสกู๊ตเตอร์เป็นต้น
Ninebot MAX G2 ต่างจาก Ninebot MAX อย่างไรบ้าง?
Ninebot MAX G2 เป็นรุ่นที่พัฒนาจากรู่น MAX โดยถ้าดูจากภายนอกจุดเด่นหลักๆที่เพิ่มขึ้นมาให้กับ Ninebot MAX G2 ก็มีอยู่หลายจุดไม่ว่าจะเป็น ขนาดฐานเหยียบที่กว้างขึ้น ตัวเครื่องสูงขึ้น แฮนด์จับกว้างขึ้น, ระบบไฟเลี้ยว, เสียงแตรไฟฟ้า, ระบบโช้คที่มีมาให้ถึง 2 จุดที่บริเวณล้อหน้าและล้อหลัง แล้วก็ยังมีในเรื่องของสเปคด้านความเร็วและระยะทาง โดยความเร็วของและระยะทางโดยใน MAX G2 จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 32 กม./ชม. และวิ่งได้ไกลสุดถึง 70 กม./ชาร์จ ในขณะที่ Ninebot MAX ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 30 กม./ชม. และวิ่งได้ไกลสุดถึง 65 กม./ชาร์จ
หาเราเจอแน่นอนด้วยตัวแทนจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมศูนย์บริการใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมให้บริการคุณ
ในงาน Digital Press Conference ของ Segway-Ninebot ปี 2023 นี่คือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ที่สุดในการเปิดตัว เตรียม Unlock Your New MAX ไปด้วยกันกับ Ninebot KickScooter MAX G2
อ่านต่อ