Key Takeaways
- เลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Seyway-Ninebot รุ่นไหนดี? ควรเริ่มต้นที่การตั้งโจทย์ประเภทการใช้งานให้ถูกต้อง ดูที่ระยะทางว่าใช้งานได้ไกลแค่ไหน ความเร็วที่อยู่ในระดับปลอดภัย และฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
- สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot จาก MONOWHEEL มีกลายรุ่นให้เลือก มาพร้อมฟังก์ชันที่ต่างกันออกไป เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากลายเป็นยานพาหนะของคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองไม่ได้น้อย เพราะว่าสะดวกสบาย ประหยัดเวลา ประหยัดพื้นที่จัดเก็บพร้อมทั้งสามารถพกพาไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเวลาไปเที่ยวได้ง่ายและได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม สำหรับใครที่กำลังหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot รุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่น ตาม MONOWHEEL ไปดูกัน
วิธีเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot มีวิธีการเลือกอย่างไรบ้าง?
- เริ่มต้นที่ลักษณะการใช้งาน ควรดูรูปแบบการใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้ถูกต้อง เพราะแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป เช่น มองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถนำขึ้น BTS หรือ MRT ได้ ก็ควรเลือกรุ่นที่พับได้ น้ำหนักน้อยลงมาหน่อยเผื่อต้องมีการยกบ้างในบางสถานการณ์ หรือมองหารุ่นที่ขี่ได้ไกล ขี่ได้แบบนุ่ม ไม่มีความจำเป็นต้องยก ก็สามารถตัดเรื่องน้ำหนักออกไปแล้วมาให้ความสำคัณกับล้อและระบบโช๊คแทน เป็นต้น
- ระยะทางที่ต้องการใช้ ว่าเอาไว้ขี่ใกล้ ๆ หรือขี่ไกล ๆ ก็ควรเลือกให้เข้ากับระยะทางที่ต้องการนำไปใช้ เพื่อให้ได้รุ่นที่เหมาะกับการใช้งาน
- ฟังก์ชันอื่น ๆ เช่นไฟเลี้ยว ระบบกันสกู๊ตเตอร์หาย ชนิดของระบบเบรกหรือการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็เป็นปัจจัยที่ควรนำมาช่วยเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot ที่เหมาะกับเรามากที่สุด
5 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot รุ่นไหนดี ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นตอบโจทย์
1. Segway-Ninebot D18W รุ่นเริ่มต้น ราคาไม่แรง ใช้งานง่าย ตอบโจทย์สายชิล
เริ่มต้นที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot D18W จัดเป็นรุ่นเริ่มต้นยอดนิยมในปัจจุบัน ที่มีราคาเพียง 16,900.- เท่านั้น สามารถทำความเร็วสูงสุด 25 กม/ชม. และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 18 กม/ชาร์จ ตัวเครื่องสีเทา Matte Gray แสดงความมินิมอล เหมาะกับการใช้งานในระยะใกล้ ถึงปานกลาง
ถึง Ninebot D18W จะเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้น แต่ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot การบันทึกเส้นทางการขับขี่ หรือการดูค่าสถานะต่าง ๆ ของตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Regenerative Brake เพื่อปั่นไฟกลับเมื่อเราปล่อยคันเร่งเพื่อปั่นไฟกลับเข้าตัวเครื่อง มาพร้อมกับน้ำหนักเพียง 14.8 กก. สามารถเครื่องได้ ทำให้สะดวกต่อการพกพาไปใช้งานต่าง ๆ เช่นการพกใส่หลังรถ การนำไปใช้ควบคู่กับการขึ้นรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT เป็นต้น
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot D18W รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
- คนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันแรกไว้ใช้ในราคาไม่แรง
- คนที่ตั้งใจนำไปขี่ในระยะใกล้ ๆ เช่น ขี่เล่นรอบหมู่บ้าน, ขี่ไปซื้อของหน้าปากซอย หรือขี่จากบ้านไปทำงานในระยะไป-กลับไม่เกิน 10 กิโลเมตร
- คนที่ตั้งใจนำไปใช้งานควบคู่กับการขึ้น BTS หรือ MRT
- คนที่มองหารุ่นที่เป็นล้อยางลมขี่สบาย ๆ
- คนที่ชอบสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสไตล์เรียบ ๆ สีมินิมอล ๆ
2. Segway-Ninebot D38U สีสันจัดจ้าน สเปคคุ้มค่า ราคาโดนใจ
Ninebot D38U โดดเด่นด้วยตัวเฟรมของตัวเครื่องสีแดง Bright Red แบบจัดจ้าน สำหรับใครกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เน้นใช้งานในระยะกลางขึ้นไป รุ่น D38U ถือเป็นคำตอบที่ดีเพราะแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น D18W ถึง 2 เท่า ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 38 กม/ชาร์จ. และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 30 กม/ชม รุ่นนี้มีราคาเพียง 23,900.- แต่ได้สเปคการใช้งานในระดับนี้ทำให้ Ninebot D38U เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าต่อสเปคการใช้งานที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง
Ninebot D38U มีการพัฒนาและอัปเกรดในส่วนของสเปคให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานที่จริงจังขึ้นกว่ารุ่น Ninebot D18W นอกจากนี้ตรงไฟท้ายได้มีการปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่าง EU E-MARK เพิ่มระบบล็อกความเร็ว (Cruise Control) ทำให้ผู้ขับขี่ ขี่สบายยิ่งขึ้นสามารถคงความเร็วไว้ได้โดยไม่ต้องกดคันเร่งตลอดเวลา
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot D38U รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
- คนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสีสวยโดนเด่นโดนใจ
- คนที่ตั้งใจนำไปขี่ในระยะปานกลางเช่น ขี่จากบ้านไปทำงานในระยะไป-กลับไม่เกิน 20 กิโลเมตร
- คนที่ตั้งใจนำไปใช้งานควบคู่กับการขึ้น BTS หรือ MRT
- คนที่มองหารุ่นที่เป็นล้อยางลมขี่สบาย ๆ
- คนที่อยากได้รุ่นที่มีระบบล็อกความเร็วขณะชับขี่
3. Segway-Ninebot F2 Built-in ฟีเจอร์ระดับ Global ในราคาเครื่องไม่ถึง 30,000.-
รุ่นต่อไปเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Segway-Ninebot อย่าง Ninebot F2 ด้วยการนำโมเดลเดิมสุดฮิตอย่าง Ninebot F Series มาพัฒนาทั้งในด้านสมรรถนะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นการใส่ระบบ Traction Control มาให้เพื่อให้ขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ป้องกันการอาการสะบัดเวลาขี่ใช้ รวมถึงการใช้ล้อยางลมแบบใหม่ที่ด้านในมีการเคลือบสารกันรั่วซึมเอาไว้ เพื่อให้ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น ลดความกังวลเรื่องยางรั่ว นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้ครบถ้วนมากกว่าเดิม
Ninebot F2 มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 30 กม/ชม. และสามารถทำระยะทางขับขี่ต่อชาร์จได้สูงสุดที่ 40 กม/ชาร์จ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเพิ่มความปลอดภัยอย่างการติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว การใส่ระบบล็อกรหัส 4 หลัก หรือการรองรับการทำงานร่วมกับ Apple Find My อีกด้วย
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot F2 รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
- คนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีไฟเลี้ยวติดตั้งมาให้ในตัว
- คนที่อยากได้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีฟีเจอร์ Apple Find My เอาไว้ใช้ค้นหาหรือเช็คว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตอนนี้อยู่ตรงไหน
- คนที่อยากได้ล้อยางลมไว้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพราะรุ่นนี้ใช้ล้อยางลมแบบอัพเกรด มีสารกันรั่วซึ่มอยู่ด้านในยาง
- คนที่มองหารุ่นที่ขี่ได้ระยะทางระดับปานกลาง-ไกล
- คนที่อยากได้รุ่นที่ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากกว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทั่วไปตามท้องตลาดเพราะรุ่นนี้มีระบบ Traction Control
4. Segway-Ninebot MAX G2 เน้นขี่แบบนุ่มสบาย วิ่งได้ไกลไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทาง
รุ่นต่อไปมาต่อกันท่ี Ninebot MAX G2 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ รุ่นพัฒนาจาก Ninebot MAX ที่มีจุดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่ที่นิ่งและสมดุล โดยในรุ่นนี้ได้มีการนำจุดแข็งตรงนั้นมาพัฒนาต่อทำให้ Ninebot MAX G2 มีสมรรถนะการขับขี่ที่อยู่ในระดับสูง
Ninebot MAX G2 จัดเต็มด้านสเปคด้วยระยะทางขับขี่ต่อชาร์จที่สูงถึง 70 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 35 กม/ชม. และมาพร้อมช่วงล่าง 3 ตำแหน่ง ด้านหน้าเป็นโช้คไฮดรอลิก และด้านหลังเป็นโช้คสปริงคู่ซ้าย - ขวาสามารถปรับ Preload (ความแข็งของสปริงได้) ทำให้ Ninebot MAX G2 เป็นหนึ่งในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ขึ้นชื่อว่าขับขี่ได้นุ่มที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นสุดล้ำมากมายไม่ว่าจะเป็นการรองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Find My มีระบบไฟเลี้ยว หรือระบบกันล้อฟรี (Traction Control)
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot MAX G2 รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
- คนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีไฟเลี้ยวติดตั้งมาให้ในตัว
- คนที่อยากได้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีฟีเจอร์ Apple Find My เอาไว้ใช้ค้นหาหรือเช็คว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตอนนี้อยู่ตรงไหน
- คนที่อยากได้รุ่นที่มีช่วงล่างดี ๆ เวลาขี่ต้องการความนุ่มแบบสุด ๆ
- คนที่มองหารุ่นที่ขี่ได้ระยะทางระดับไกล ไม่เน้นยกและขี้เกียจมานั่งชาร์จบ่อย
- คนที่อยากได้รุ่นที่ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากกว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทั่วไปตามท้องตลาดเพราะรุ่นนี้มีระบบ Traction Control
5. Segway-Ninebot E2 Plus ขี่ไกล เน้นทางเรียบ ยางไม่มีรั่ว
พบกับรุ่นสุดท้ายอย่าง Ninebot E2 Plus เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ Segway-Ninebot ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นอื่นเล็กน้อย เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ่นเช่นผู้หญิงหรือคนตัวเล็ก นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นแรกในไลน์ผลิตของ Segway-Ninebot ที่ใช้ล้อยางตันแบบใหม่ที่ทนกว่าเดิมและโครงสร้างด้านในของล้อจะมีลักษณะเป็นรูกลวง เพื่อให้มีระยะในการลดแรงกระแทกจากพื้นมาถึงตัวเครื่อง ทำให้รุ่นนี้ขับขี่สบายกว่ารุ่นที่เป็นล้อยางตันแบบเดิม ใช้งานได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกังวลเรื่องยาง (Zero Mentainence สุด ๆ)
Ninebot E2 Plus มีการขับขี่ต่อชาร์จที่สูงถึง 25 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 25 กม/ชม. และมาพร้อมกับล้อยางตันแบบใหม่ทนกว่าเดิม ไม่หมดแค่นั้นในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอใหม่ขนาด 2.8 นิ้วใหญ่กว่าเดิม
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot E2 Plus รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
- คนที่ตัวเล็กกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดกะทัดรัด
- คนที่อยากได้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ใช้งานแต่ไม่อยากมากังวลหรือคอยดูแลเรื่องล้อ
- คนที่มองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ใช้งานในระยะใกล้
- คนที่เอาไว้ใช้งานบนพื้นผิว พื้นถนนที่ค่อนข้างเรียบ
เนื่องจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot ที่ทาง MONOWHEEL เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างถูกต้องและเป็นรายเดียวในประเทศไทยนั้นมีหลายรุ่นให้เลือก ดังนั้นการเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ทาง MONOWHEEL อยากแนะนำนั้นคือ อย่ามองในมุมของสเปคของแต่ละรุ่นอย่างเดียว แต่ควรเลือกรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองเพื่อเป็นหลักเพื่อให้ได้รุ่นที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่จ่ายมากที่สุด และด้วยคุณภาพและนวัตกรรมที่ทาง Segway-Ninebot ตั้งใจพัฒนาให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมานั้นมักคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จึงทำให้เป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก และในประเทศไทยเองสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot ยังติดอันดับ 10 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2024 จากเว็บไซต์ Top 10 อีกด้วย