[Review] รีวิว Segway ZT3 Pro สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสายลุย ที่จบได้ทุกการใช้งาน

พบกับ All-Terrain KickScooter คันแรกของ Segway ที่มาพร้อมดีไซน์และฟังก์ชั่นที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

Segway ZT3 Pro
รีวิว Segway ZT3 Pro สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ผสมผสานสมรรถนะและฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างลงตัว

Segway-Ninebot ส่งท้ายปี 2024 ด้วยการเปิดตัวสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Segway ZT3 Pro สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า All-Terrain Off-Road รุ่นแรกของ Segway-Ninebot ที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะและฟังก์ชั่นการใช้งาน ให้เหมาะสมกับการใช้งานทุกรูปแบบอย่างแท้จริง วันนี้จะพาไปเจาะลึกทุกรายละเอียดว่าทำไม Segway ZT3 Pro ถึงเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน เราไปดูทีละจุดกัน 

ดีไซน์และการประกอบ - Segway ZT3 Pro

เริ่มที่การดีไซน์ภาพรวมก่อน ยังไม่ต้องมองอะไรเป็นพิเศษ มองแค่ภาพรวมก็รู้สึกแปลกตาแล้ว เพราะ Segway-Ninebot ไม่เคยดีไซน์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ดูสปอร์ต เท่ขนาดนี้มาก่อน ทั้งขนาดตัวเครื่อง งานประกอบที่มีความเปิดเปลีอยตรงเฟรมสีแดงนิดหน่อย รวมถึงไฟ Daytime Running Light รูปตัว ‘X’ ให้ความรู้สึกเหมือนขับบิ๊กไบค์เลย

ดีไซน์เทียบกับ MAX G2 - Segway ZT3 Pro

MAX G2 จะมีความมินิมอลกว่า เครื่องเล็กกว่า ส่วน ZT3 Pro ดีไซน์จะดูสปอร์ต ดุดัน ตัวเครื่องจะใหญ่กว่าชัดเจนครับ

Handlebar & Display - Segway ZT3 Pro

เข้ามาซูมดูใกล้ ๆ ทีละจุดตั้งแต่ Handlebar ในรุ่นนี้ดีไซน์ให้แฮนด์มีความโค้งกว่ารุ่นอื่น เพื่อให้รับกับมือและองศาการจับของเรามายิ่งขึ้น และตรงกลางเป็นหน้าจอขนาด 3 นิ้ว ที่เคลมว่าสว่างกว่ารุ่นอื่น 6 เท่า พร้อมสู้แสงแดดประเทศไทย สว่างแค่ไหนก็ยังมองเห็นได้ดีเมื่อขับขี่ในช่วงกลางวัน และมีเบรกมือทั้ง 2 ฝั่ง 

ชุดปุ่มควบคุม - Segway ZT3 Pro

เจาะมาที่ฝั่งซ้าย จะมีชุดปุ่มควบคุมการใช้งานตัวรถต่าง ๆ ดีไซน์เหมือนปุ่มจอยเกม มีทั้งหมด 5 ปุ่มด้วยกัน และด้านล่างจะมีกระดิ่งด้วย

ปุ่มบน ทำหน้าที่เป็นปุ่มเปลี่ยนโหมด รุ่นนี้เปลี่ยนโหมดผ่านการกดแค่ครั้งเดียว และอยู่ในตำแหน่งที่กดง่ายมากขึ้น ไม่ตรงเอื้อมไปกดปุ่มตรงกลางหน้าจอเหมือนรุ่นอื่น ๆ และยังใช้เป็นปุ่มสำหรับการ Activate Cruise Control โหมดล็อกความเร็วขณะขับขี่ (ในรุ่นนี้ไม่มีปรับในแอปแล้วนะครับ เผื่อใครสงสัยว่าหายไปไหน)

ปุ่มล่าง ทำหน้าที่เป็นปุ่มเปิด - ปิดเครื่อง และเปิด - ปิดไฟหน้า (ไฟ Daytime Running Light และไฟท้ายปิดไม่ได้นะครับ บังคับเปิดเพื่อความปลอดภัย)

ปุ่มซ้าย- ขวา เป็นเปิด - ปิดไฟเลี้ยวนะครับ ถ้ากดค้างฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะเป็นการเปิดไฟฉุกเฉิน ไฟทั้ง 2 ข้างจะกะพริบพร้อมกัน

ไฟฉุกเฉิน

คันเร่ง - Segway ZT3 Pro

ถัดมาที่ด้านขวาเป็นคันเร่งนะครับ แค่คันเร่งก็มีเรื่องเล่าแล้ว คันเร่งรุ่นนี้เป็น Hybrid ออกแบบมาให้กดก็ได้ หรือบิดก็ได้ เป็นรุ่นแรกของ Segway-Ninebot ที่ทำแบบนี้ออกมานะครับ เพราะแต่ละคนถนัดใช้งานไม่เหมือนกัน จึงทำให้ใช้งานได้ทั้ง 2 แบบไปเลย และเนื่องจากรุ่นนี้ออกแบบมาให้มีสรรถนะที่สูงและขับขี่บนทางออฟโรดด้วย การใช้คันเร่งแบบบิดเลยดูเหมาะสมกว่าเพราะถ้าใช้คันเร่งแบบกด แล้วถ้าขับกระแทกหลุมบ่อย ๆ อาจจะทำให้เผลอไปกดคันเร่งให้ลึกกว่าเดิมและทำให้เครื่องพุ่งได้ เพราะฉะนั้นการใช้งานในเมืองก็ใช้แบบกด จะได้ไม่เมื่อยมือมาก แต่ถ้าต้องลุยออฟโรด ก็ใช้แบบบิดจะเหมาะกว่านั่นเอง

ลำคอ - Segway ZT3 Pro

ถัดลงมาที่ลำคอ ไปแบบไว ๆ ยังคงเป็นอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานเหมือนเดิม และเกลียวสำหรับล็อกจะอยู่ตรงกลางด้านบนของลำคอ ในรุ่นนี้จะเป็นแบบสปริงล็อก สามารถดันให้ล็อกติดดับลำคอแบบนี้ได้ ถ้าจะเปิดใช้งานให้ดึงออกมาเพื่อไม่ให้มันหลุดตอนที่เราไม่คิดจะใช้งาน และรอบคอยังมีทับทิมสะท้อนแสงทั้งด้านหน้าและด้านข้างเพื่อความปลอดภัยเหมือนเดิม

หูเกี่ยวสัมภาระ - Segway ZT3 Pro

รุ่นสุดแรงไม่ใช้ซื้อแกงได้ไง สำหรับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสายสมรรถนะอย่าง ZT3 Pro ได้ใส่ช่องเกี่ยวสัมภาระมาให้ด้วยนะครับ รองรับน้ำหนักได้ 5 กก. และได้มีการย้ายจากบริเวณด้านบนลงมาที่ด้านล่างเพื่อเพิ่มศูนย์ถ่วงไม่ให้หกง่าย ๆ นั่นเอง 

ไฟ Daytime Running Light 'X' - Segway ZT3 Pro

ลงมาพบไฟอีกหนึ่งดวงสุดเท่อย่างไฟ Daytime Running Light รูปตัว X ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ เป็นไฟที่จะติดอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่องและปิดระหว่างใช้งานไม่ได้นะครับบังคับเปิด 

ช่วงล่างหน้า - หลัง - Segway ZT3 Pro

มาที่อีกหนึ่งไฮไลต์อย่างระบบช่วงล่างนะครับ Segway ZT3 Pro มาพร้อมช่วงล่างทั้งหน้าและหลัง ไล่จากหน้าก่อน ช่วงล่างด้านหน้าดีไซน์แบบ Dual Telescopic หรือตะเกียบคู่นะครับ เหมือนกับที่นิยมใช้กันในรถมอเตอร์ไซค์ และภายในกระบอกทั้ง 2 อันมี Built-in สปริง ไว้อีกฝั่งละตัวด้วยนะครับ

ส่วนด้านหลังเป็นจะเป็น Trailing-Arm นะครับ เป็นสวิงอาร์มที่ตรงกลางมีติดโช้คสปริงไว้อีกตัวนะครับ ด้วย Character ของช่วงล่างในรุ่นนี้ไม่ได้ไปทางนุ่มยวบซะทีเดียวนะครับ จะให้ความหนักแน่นไว้รับกับการใช้งานที่สามารถลุยออฟโรดได้นะครับ 

พื้นเหยียบ - Segway ZT3 Pro

พื้นเหยียบรุ่นนี้ทำมากว้างและมีพื้นที่เหยียบแบบสบายมากเลยนะครับรุ่นนี้มีระยะฐานล้ออยู่ที่ XX ยาวกว่ารุ่นอื่น ๆ และด้านหลังดีไซน์ให้สามารถใช้เป็นพักเท้าหลังได้ด้วยนะครับ ส่วนจุดชาร์จยังอยู่ด้านหน้า และอย่างที่บอกว่าในรุ่นนี้ทำระยะยุบของโช้คไว้สูงนะครับ ทำให้ Ground Clearance ต้อสูงตามนะครับเพราะต้องเผื่อไว้ให้ระยะยุบ รุ่นนี้มี Ground Clearance อยู่ที่ XX เวลาลองยืน ลองขับ ในครั้งแรก ๆ เราจะรู้สึกว่าตัวเราลอยอยู่เหนือพื้นแบบค่อนข้างมาก บางครั้งอาจจะยังไม่ชิน แต่บอกเลยว่าลองได้ไม่นานก็สามารถปรับตัวได้แล้วนะครับ เอกลักษณืที่รุ่นนี้ทำออกมาคือ เร็ว แรง แต่ขับง่ายอย่างแน่นอนครับ 

ยาง - Segway ZT3 Pro

เพื่อตอกย้ำว่า Segway ZT3 Pro เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ลุยออฟโรด ยางต้องเอื้อให้ลุยได้ด้วยนะครับ รุ่นนี้มีารปรับดีไซน์บางใหม่ ไม่ได้เป็นยางทางเรียบทั่วไปเหมือนกับรุ่นก่อน ๆ นะครับ ยางรุ่นนี้เป็นยางประเภท All-Terrain Off-Road ขนาด 11 นิ้ว เป็นยางลม Tubeless (ไม่มียางใน) เรียกว่าเป็นยางที่ดีไซน์มาให้ลุยได้ทุกพื้นถนน แต่จะหนักไปทางการลุยออฟโรดระดับนึงนะครับ ดอกยางจะมีความลึกระดับนึง พอให้สามารถตะกรุยหิน ดิน ทรายได้ สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะว่าถ้ายางถูกดีไซน์มาให้เป็นออฟโรดแบบ 100% ดอกยางจะลึกกว่านี้ แต่จะไม่เหมาะกับการใช้งานบนพื้นเรียบเลยนะครับ เพราะจะส่งเสียงดังเวลาขับขี่นั่นเอง เนื่องจากการใช้งานทางเรียบยังคงเป็นการใช้งานที่จำเป็นอยู่ จึงได้ดีไซน์ออกมาเป็น All-Terrain Off-Road นั่นเองครับ

ระบบเบรก - Segway ZT3 Pro

ดิสก์เบรกล้อหน้า
ดิสก์เบรกล้อหลังพร้อมเบรกไฟฟ้า

ผ่านมาแบบไว ๆ เบรกในรุ่นนี้เป็นระบบดิสก์เบรกคู่หน้า - หลังเลยนะครับเพื่อให้หยุดสมรรถนะสุดแรงได้ โดยเบรกด้านซ้ายจะเป็นดิสก์เบรกล้อหลัง และเบรกขวาจะเป็นดิสก์เบรกที่ล้อหน้านะครับ ส่วนมอเตอร์ขับเคลื่อนด้านหลังยังใช้เป็นเบรกไฟฟ้าพร้อมปั่นไฟกลับได้ด้วยนะครับ สำหรับ Regenerative Braking สามารถเลือกปรับความแรงของการหน่วงมอเตอร์เพื่อปั่นไฟกลับได้ผ่านแอปฯ Segway-Ninebot นะครับ เลือกได้ 3 แบบ (เบา แรง หรือปิดไปเลยนะครับ)

การพับ - Segway ZT3 Pro

หลายคนสงสัยแน่นอนว่าเครื่องใหญ่แบบนี้พับได้มั้ย ใส่หลังรถได้หรือเปล่า เดี๋ยวแวะมาดูด้านการพับนิดนึง รุ่นนี้สามารถพับล็อกได้เหมือนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเล็กรุ่นอื่น จุดพับล็อกจะอยู่ตรงด้านล่างของลำคอหันออกนะครับ การพับล็อกยังเป็นสลักล็อก 2 ชั้นนะครับ  แต่ออกแบบให้ปลดล็อกได้ง่ายและเบากว่าเดิมมากนะครับ คุณผู้หญิงก็สามารถพับได้อย่างง่ายดายนะครับ 

ทดลองใส่หลังรถ Honda City คันจิ๋วให้ดูนะครับ และขอแนบขนาดตัวเครื่องตอนพับไว้เพื่อให้ได้เอาไปลองวัดใส่กับหลังรถของแต่ละคนกันนะครับ รุ่นนี้ขนาดตัวเครื่องหลังพับ : 124.5x63.8x64.5

จบไปแล้วในส่วนของการรีวิวด้านดีไซน์และการออกแบบของ Segway ZT3 Pro สำหรับด้านของสมรรถนะ ขอแนบเป็นรูปสเปคแบบนี้ไว้นะครับ 

Application - Segway ZT3 Pro

ต่อไปเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นนะครับ นอกจาก ZT3 Pro จะเด่นด้านสมรรถนะแล้วด้านของฟักง์ชั่นการใช้งานบอกเลยว่าเด่นที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ ยิ่งเป็นรุ่นใหม่ Segway-Ninebot ยิ่งใส่ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ มาให้ได้ลองเล่นกันนะครับ และเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่ซื่อไปอาจจะยังงง ๆ กับบางฟังก์ชั่นนะครับ บทความนี้ไล่แธิบายแบบละเอียดทุกจุดเลยนะครับ สำหรับใครที่สงสัยสามารถอ่านได้ที่บทความนี้ได้เลย

เรามาดูที่หน้า Home กันก่อนนะครับ จะเห็นรูปตัวเครื่อง ปริมาณแบตฯ ที่เหลือ เห็นระยะทางขับขี่ที่ยังสามารถขับได้ ในรุ่นนี้ถ้าเปลี่ยนโหมดขับขี่ ระยะทางคงเหลือจะคำนวณให้ใหม่ตามโหมดขับขี่ที่ใช้งานนะครับ และสามารถสั่งเปิด - ปิดเครื่องได้ผ่านปุ่ม Power Off ตรงกลางนะครับ

ถัดลงมาล่างสุดที่ More Function นะครับ ศูนย์รวมความสนุกของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot นะครับกดเข้าไปจะเจอฟังก์ชั่นให้เล่นเต็มไปหมดเลยนะครับ รุ่นนี้จะแบ่งการฟีเจอรืไว้เป็นหมวดหมู่ 3 หมวดนะครับ เริ่มจาก Safety Function, Performance Funtion และ Others Function นะครับ เดี๋ยวไปเริ่มที่ Safety กันก่อน   

Locking Function - Segway ZT3 Pro

เข้ามาจะเจอ 3 ส่วน อย่างแรกคือการเลือกเปิด - ปิดการใช้งานฟังก์ชั่นนี้ โดยฟังก์ชั่นนี้มีระบบล็อกอยู่ 2 รูปแบบ คือ Code Lock และ AirLock™

Code Lock เป็นระบบล็อกแบบใส่รหัสผ่านตัวเครื่องสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นก่อน ๆ อย่างพวก F2 Series MAX G2 หรือ GT Series นั้นจะมีฟังก์ชั่นนี้อยู่แล้ว แต่จะมีแต่ Digital CodeLock ที่เป็นการล็อกรหัสแบบตัวเลข ที่สามารถตั้งได้ 4 หลัก 

แต่ใน Segway ZT3 Pro ได้เพิ่มรูปแบบการล็อกอีกแบบขึ้นมาให้ใช้งานง่ายขึ้น เรียกว่า Pattern CodeLock เป็นการล็อกโดยใช้การจำ Pattern แทน ถ้าย้ำกลับไปที่ Handlebar เราจะเห็นชุดปุ่มควบคุมที่มี 4 ปุ่ม ซึ่งเราจะใช้ 4 ปุ่มนั้นเป็นตำแหน่ง บน ล่าง ซ้าย ขวา แทน โดยสามารถบันทึกแพทเทิร์นได้สูงสุด 8 ตัวต่อ 1 ครั้งด้วยกัน

⭐️ Segway AirLock™ - Segway ZT3 Pro

Segway AirLock™ เป็น เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวครั้งแรกในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่น ZT3 Pro โดยการทำงานของฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น ด้วยการใช้มือถือของคุณแทนกุญแจ keyless เหมือนในรถยนต์

เมื่อมือถือของคุณเชื่อมต่อกับ ZT3 Pro และอยู่ในระยะที่กำหนด เครื่องจะปลดล็อกอัตโนมัติทันที แต่หากเป็นบุคคลอื่น ที่ไม่มีมือถือที่เชื่อมต่อไว้ จะต้องใส่รหัสผ่านปกติเพื่อปลดล็อก ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเราสะดวก ปลอดภัย และไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น

โดยในครั้งแรกเราจะต้อง Calibrate ระยะห่างของบลูทูธเพื่อหาระยะที่เป็น Default ก่อน หลังจากนั้นเราสามารถปรับได้ว่าจะให้ตัวเครื่องปลดล็อกเมื่อเราอยู่ในระยะไหนนะครับ 

Abnormality Alert - Segway ZT3 Pro 

ฟังก์ชั่นนี้เปรียบเหมือนระบบกันขโมย หากเราเปิดไว้ เวลามีคนมาขยับหรือเข็นเครื่อง ตัวเครื่องจะร้อง ระบบไฟทั้งหมดจะกะพริบ และมอเตอร์จะล็อกไม่ให้เข็นไปไหนนั่นเอง โดยในฟังก์ชั่นนี้เราสามารถเลือกเปิด - ปิดได้ และเลือกระดับการ Sensitive ได้

*แนะนำว่าตอนพกขึ้นรถให้ปิดฟีเจอร์นี้นะครับ ไม่งั้นน้องร้องตลอดทางแน่นอน 

Locating Vehicle - Segway ZT3 Pro

เรียกชื่อนี้อาจจะไม่คุ้น เรียกว่า Apple Find My อาจจะคุ้นกันกว่า หมายความว่าสกู๊ตเตอร์​ไฟฟ้าคันนี้ สามารถทำงานร่วมกับ Apple Find My ได้นั่นเองครับ เราสามารถ Pair สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้เข้ากับ Apple Find My ของเราได้เลย โดย Segway ZT3 Pro ทุกเครื่องจะมี apple ID เป็นของตัวเอง ทำให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเรานั้นไม่ต่างจาก Device ของ Apple เครื่องหนึ่งนั่นเอง

Auto Power Off - Segway ZT3 Pro

เราสามารถตั้งค่าได้ว่าเราจะให้เครื่องดับเมื่อไม่มีการตอบสนองในกี่นาที สามารถตั้งได้ตั้งแต่ 1 - 30 นาที 

Traction Control System (TCS) - Segway ZT3 Pro

ระบบกันล้อฟรีที่ Segway-Ninebot พัฒนาขึ้นมา ที่ใส่เข้ามาในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นหลัง ๆ ระบบนี้ช่วยให้เวลาเราขับขี่บนพื้นที่ลื่นเช่น พื้นทราย หรือพื้นที่มีน้ำขัง แล้วมอเตอร์อาจจะทำงานได้ไม่ถนัด ถ้าเราเปิด TCS ไว้เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ มอเตอร์จะตัดกำลังอัตโนมัติทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มอเตอร์สะบัดและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุนะครับ 

Park on Slope - Segway ZT3 Pro

ฟังก์ชั่นนี้เหมาะกับคนที่มีเหตุให้ต้องจอดสกู๊ตเตอร์บนถนนหรือพื้นที่ที่เป็นเนิน เมื่อเราเปิดฟังก์ชั่นนี้ มอเตอร์​จะล็อกในชนิดที่ไม่มีสามารถหมุนได้เลย เพื่อให้เวลาเราจอดบนทางชันตัวเครื่องจะไม่ไหลลงไปนั่นเอง โดยการเปิดใช้งานเราต้องกดเปิดในแอปฯ ก่อน หลังจากนั้นถ้าเราจะ Activate ฟังก์ชั่นนี้ต้องจอดเครื่องไว้ให้ความเร็วเป็น 0 หลังจากนั้นกำเบรกค้างไว้ 6 วินาที หน้าจอจะขึ้นอักษร H เพื่อแสดงว่ามอเตอร์ล็อกเรียบร้อย และหากต้องการออกจากฟังก์ชั่นนี้ เพียงกำเบรก 1 ครั้ง ก็จะออกจากฟังก์ชั่นนี้อัตโนมัติ 

*หากต้องใช้ฟังก์ชั่นนี้บ่อย ๆ สามารถตั้ง Custom Button Setting เป็นฟีเจอร์นี้ก็จะสะดวกขึ้นนะครับ

Choose Speed Mode - Segway ZT3 Pro

ในรุ่นนี้เราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะเปิดใช้งานโหมดขับขี่โหมดไหนบ้าง จากทั้ง 4 โหมด (ECO, D, S และ Walk) บางคนอาจจะไม่เคยใช้โหมด D ก็สามารถปิดได้ เวลากดเปลี่ยนโหมดจะได้ไวและง่ายขึ้นนั้นเอง 

*โหมด ECO ไม่สามารถเลือกปิดได้ เป็นโหมดที่บังคับให้เปิดใช้งาน 

Customize Mode Speed - Segway ZT3 Pro

เราสามารถเลือกความเร็วสูงสุดในแต่ละโหมดขับขี่ได้เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคนในตอนแรกความเร็วสูงสุดในโหมด S (Sport) จะสุดที่ 25 กม/ชม. แต่เมื่อเราเข้าไปกดอัปเดตในฟังก์ชั่น Vehicle Location เป็น Thailand แล้ว หลอดความเร็วจะเพิ่มขึ้นให้สุดที่ 40 กม/ชม. นะครับ (ถัดลงไปจะมีสอนเรื่องการปลดความเร็วผ่าน Vehicle Location นะครับ)

นอกจากจะปรับความเร็วได้แล้ว ยังสามารถเปิดฟังก์ชั่นลับอย่าง Boost Mode ได้ด้วย โดย Boost Mode ตามชื่อเลยเป็นโหมดเพิ่มอัตราเร่งให้ถึงขีดสุดเพื่อให้ออกตัวได้อย่างเร้าใจ วิธีการเปิดใช้งาน Boost Mode ขั้นตอนแรกต้องเปิดผ่านแอปฯ ก่อน หลังจากนั้นก่อนออกตัวให้เรากำเบรกข้างใดข้างหนึ่งค้างไว้ และกดคันเร่ง หน้าจอจะกะพริบ 3 ครั้ง ก่อนไอคอน Boost Mode จะปรากฎบนหน้าจอ โดย Boost Mode จะติดอยู่ประมาณ 5 วินาทีก่อนจะหายไป 

Start Speed - Segway ZT3 Pro

ฟังก์ชั่นนี้เป็นการตั้งค่าว่าจะให้มอเตอร์ทำงานเมื่อความเร็วถึงเท่าไหร่ สามารถตั้งได้ 0 - 5 กม/ชม. ในตอนแรกสุดจะตั้งค่าไว้ที่ 3 กม/ชม. หากเราตั้งค่าไว้ตั้งแต่ 2 กม/ชม. ลงไปจะมี Park Mode ขึ้นมาอัตโนมัติ เป็นเหมือนโหมดป้องกันไม่ให้มือไปโดนคันเร่งแล้วเครื่องออกตัวเอง ก่อนจะออกตัวต้องกำเบรก 1 ครั้งให้ Park Mode หายไปก่อน 

Energy Recovery - Segway ZT3 Pro

ระบบปั่นไฟกลับเข้าตัวเครื่องที่อยู่กับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot มาอย่างยาวนาน เมื่อเราปล่อยคันเร่ง มอเตอร์จะหน่วงเพื่อช่วยเบรกและเป็นการปั่นไฟกลับเข้าตัวเครื่อง ซึ่งเราสามารถตั้งค่าความหน่วงได้ 3 ระดับ (แรง, เบา, ปิดไปเลย)

Brake Priority - Segway ZT3 Pro

ฟังก์ชั่นตอบโจทย์สายแรง เป็นฟังก์ชั่นที่เราตั้งค่าได้ว่าเมื่อเรากำเบรกจะให้เซนเซอร์ของมอเตอร์ทำงานมั้ย หากกดเปิด มอเตอร์จะไม่ทำงาน แต่หากเราปิดไว้ต่อให้เรากำเบรก แต่ถ้าเรายังกดคันเร่งอยู่ มอเตอร์ก็จะยังเร่งอยู่ เหมาะกับในบางสถานการณ์เช่นการเข้าโค้ง ที่ทำให้เราเบรกแต่ยังเลี้ยงคันเร่งไว้ได้นั่นเอง

Custom Button Settings - Segway ZT3 Pro

อย่างที่เล่าไปในพาร์ท Handlebar ในปุ่มสีแดง (ปัจจุบันจะใช้สีดำ) ที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มลัด สามารถตั้งได้ว่าอยากให้กดเพื่อใช้ฟังก์ชั่นอะไร ณ ปัจจุบันจะเลือกได้ 4 อย่าง ประกอบด้วย 

  1. Park Mode : สำหรับเข้า Park Mode แบบทันทีทันควัน (หน้าจอขึ้นตัว P)
  2. Automatic Hill Hold : กดแล้วเข้าโหมดจอดทางชัน มอเตอร์จะล็อกเพื่อให้จอดบนทางชันได้โดยที่เครื่องจะไม่ไหล
  3. Walk mode : กดเพื่อลัดเข้า Walk Mode โหมดสำหรับช่วยเข็นและขับขี่บนทางเท้า ของรุ่นนี้แค่เราเข็นถึงความเร็วที่กำหนด มอเตอร์จะทำงานเอง ช่วยส่งแรงเข็นให้เราอัตโนมัติ
  4. Emergency Flashers : กดเพื่อเปิด - ปิดไฟฉุกเฉินได้เลย ไม่ต้องกดไฟเลี้ยวค้าง

Light Effect - Segway ZT3 Pro

ตั้งค่าการทำงานของไฟเบรก (ไฟท้าย) ว่าเมื่อกำเบรกมืออยากให้ไฟท้ายตอบสนองแบบไหน 

  1. สว่างขึ้นกว่าเดิมตอนเบรก
  2. กะพริบตอนเบรก 

และฟังก์ชั่นอีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมาคือ Breathing Taillight ที่ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าขณะชาร์จจะให้ไฟท้ายติดไหม จากใจคนใช้รุ่นก่อน ๆ ไฟท้ายของ Segway-Ninebot สว่างมากครับ ขณะชาร์จสามารถเปลี่ยนทั้งห้องเป็นสีแดงได้เลย เพราะฉะนั้นใครไม่ชอบ ปิดได้แล้วครับในรุ่นนี้

Direction indicator sound - Segway ZT3 Pro

สามารถตั้งค่าได้ว่าในระหว่างที่เปิดไฟเลี้ยว จะให้มีเสียงสัญญาณด้วยมั้ย เพื่อเพิ่มความปลอดระหว่างการขับขี่ให้มากขึ้น

App Function Tone - Segway ZT3 Pro

ฟังก์ชั่นนี้เหมือนเป็นฟังก์ชั่นกันรำคาญครับ ทุกครั้งที่เราตั้งค่าตัวเครื่องผ่านแอป ตัวเครื่องจะส่งเสียง ‘ติ๊ด’ ถ้าไม่ชอบได้ยิน สามารถปิดได้ครับ 

Scheduled Charging (Enable before Each Charging) - Segway ZT3 Pro

เพื่อให้การใช้งานสบายและละเอียดยิ่งขึ้นจึงมีฟีเจอร์นี้ครับ ฟีเจอร์ที่สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ตัวเครื่องเริ่มชาร์จตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง เผื่อในกรณีที่บางท่านมีการใช้มิเตอร์ที่เก็บค่าไฟต่างกันในแต่ละช่วงเวลา หรือท่านที่พึ่งใช้งานแบบเต็มที่มาหมาด ๆ แบตฯ กำลังอุ่น ๆ เสียบชาร์จก็จะยังไม่เข้า ก็สามารถเสียบสายชาร์จไว้และตั้งให้อีกสัก 2 ชม. ค่อยเริ่มชาร์จก็สามารถทำได้

*และสามารถตั้งค่าได้ว่าหากชาร์จถึงเวลาที่กำหนดแล้วแบตฯ ยังไม่เต็มจะให้ชาร์จต่อจนเต็มไหม

Charging Limit - Segway ZT3 Pro

เพื่อรักษาคุณภาพและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลิเธียม การดูแลเรื่องการชาร์จเป็นสิ่งสำคัญนะครับ Charging Limit มีหน้าที่กำหนดว่าเราต้องการชาร์จไฟให้เต็มที่ความจุกี่ % (80 - 100%) การชาร์จเต็มไม่ใช่ผลดีนะครับ เพราะจะทำให้แบตฯ มีการคายประจุไฟฟ้าออกมา และเนื่องจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลิเธียมดูเป็นรอบการชาร์จ (Charging Cycle) การชาร์จจาก 0 - 100% นับเป็น 1 Cycle ทำให้การชาร์จเต็มแค่ 0 - 80% จะเหลืออีก 20 ไปทบใน Cycle ถัดไป ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานขึ้นนั่นเอง

Segway-Ninebot Lab - Segway ZT3 Pro

โหมดที่ Segway-Ninebot จะใส่ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ที่กำลังพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานนั่นเอง 

Hill Descent Control 

โหมดสำหรับคนที่เน้นการขับขี่บนทางลาดชัน หากเปิดฟังก์ชั่นนี้มอเตอร์จะหน่วงกว่าเดิมเพื่อให้ปลอดภัยมากขึ้นเวลาขับลงทางลาดชันนั่นเอง

Push-to-Start

อีกฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เป็นฟังก์ชั่นที่หากเปิดไว้ ต่อให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าปิดอยู่ ถ้าเราเข็น ตัวเครื่องจะเปิดอัตโนมัติ โดยฟังก์ชั่นนี้ออกแบบมาให้ทำงานควบคู่กับ AirLock™ ที่ต่อให้เราใส่รหัสไว้ แต่ถ้าเราที่มีมือถือที่เชื่อมต่ออยู่ ก็สามารถเดินทางเข็นเครื่องเปิดอัตโนมัติได้เลย ทำให้ใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างไร้รอยต่อมากขึ้นนั่นเอง แต่ต้อง Note ไว้ก่อนนะครับว่าฟังก์ชั่นนี้ไม่สามารถทำงานพร้อมกับฟังก์ชั่น Abnormality Alert ได้ ต้องเลือกเปิดแค่อันใดอันหนึ่ง ว่าจะให้เข็นแล้วเครื่องติด หรือจะเข็นแล้วเครื่องร้องนั่นเอง 

Imperial/Metric - Segway ZT3 Pro

สามารถตั้งค่ามาตรความเร็วได้ว่าจะใช้เป็น mph (ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือ kph (กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

Vehicle Location - Segway ZT3 Pro

Exclusive Function ที่ทำให้โมเดลที่จัดจำหน่ายที่ไทยนั้นปลดล็อกความเร็วสูงสุดได้ นั่นคือ 40 กม/ชม. ในครั้งแรกที่เปิดเครื่อง เราต้องกด Update ก่อนนะครับ หลังจะบบตรวจได้ว่าเป็นเครื่องของประเทศไทย ให้เรากดอัปเดตอีกครั้ง ความเร็วในโหมด S จะเพิ่มเป็น 40 กม/ชม. และเราสามารถไปปรับได้ในฟังก์ชั่น Customize Mode Speed นะครับ

Device Info - Segway ZT3 Pro

สามารถเข้าไปเพื่อดูสถานะตัวเครื่องต่าง ๆ ได้นะครับ ทั้งเลข SN ที่ดีไซน์มาให้เรากดคัดลอกได้เลยเพื่อความสะดวก ดูระยะทางการขับขี่ทั้งหมดได้ อุณหภูมิตัวเครื่อง รวมถึงเวอร์ชั่นเฟิร์มแวร์ต่าง ๆ ฯลฯ

Sleep Mode - Segway ZT3 Pro

เตือนก่อนว่าอย่าเผลอไปกดโหมดนี้เล่นนะครับ Sleep Mode เป็นโหมดที่เมื่อเรากด Turn On ปุ๊ปตัวเครื่องจะดับไปเลย ชนิดที่กดเปิดก็ไม่ติดแล้ว เพื่อเป็นการรักษาแบตฯ ให้คงที่ไว้นะครับ ในความเป็นจริงแล้วแม้เราจะปิดเครื่องแต่แบตเตอรี่ยังไม่หยุดทำงานแบบ 100% นะครับเนื่องจากต้อง Stand by ไว้ให้กับฟังก์ชั่นต่าง ๆ อย่าง AirLock™ ที่เดินเข้ามาใกล้เครื่องแล้วต้องพร้อมเปิด หรือการต่อบลูทูธอัตโนมัติในระยะทำการนั่นเอง

เพราะฉะนั้น Sleep Mode จึงเกิดมาเพื่อให้แบตเตอรี่ได้พักผ่อนแบบเต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับใครที่ต้องไปเที่ยวนาน ๆ หรือต้องทิ้งเครื่องไว้ไม่ได้ใช้งานนาน ๆ นั่นเอง ซึ่งหลังจากปิดไปแล้ว ถ้าเราอยากจะเปิด ทำได้ด้วยการเสียบสายชาร์จเพื่อกระตุ้นแบตฯ ให้ตื่นนั่นเองครับ 

จบไปแล้วกับพาร์ทแอปพลิเคชั่นของ Segway ZT3 Pro เรียกว่าเต็มอิ่มมาก ๆ กับฟีเจอร์ที่ได้มานะครับ สำหรับมุมมองของ ZT3 Pro ในความคิดของผู้เขียน คิดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ ทั้งในด้านของราคาเมื่อเทียบกับดีไซน์ สมรรถนะ และฟังก์ชั่นที่ได้มา จริง ๆ แล้ว Segway ZT3 Pro ไม่ได้วาง Character เพื่อให้ใช้งานสายออฟโรดอย่างที่ได้มองกันไว้นะครับ ในความเป็นจริงเรียกว่าเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบจะเหมาะสมกว่าครับ ถึงสมรรถนะจะถึงขั้น Performance Scooter แต่ฟังก์ชั่นหลาย ๆ อย่างยังเอื้อในการใช้งานในชีวิตประจำวันนะครับ ไม่ว่าจะเป็น AirLock™ หรือ Apple Find My นั่นเอง

ยังไงก็ขอเป็นการจบบทความรีวิวไว้ ณ ตรงนี้เลยนะครับ สำหรับใครที่ใจตัว Segway ZT3 Pro สามารถมาดูตัวจริงได้ที่ MONOWHEEL HQ ซอยจุฬา 28 ถนนบรรทัดทอง ตรงข้ามร้าน CQK เข้ามามีที่จอดรถรองรับกว่า 200 คันนะครับ หรือหากไม่สะดวกเข้ามาก็สามารถติดต่อมาได้ที่ช่องทางเหล่านี้เลยนะครับ

โทร : 02-107-2993 

Line : @MONOWHEEL

บทความที่น่าสนใจ

Interesting articles
Back to top