Segway P100SU สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแห่งโลกอนาคตที่เหมาะสมกับคำว่าคู่ควรด้วยฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง 

Segway P Series หนึ่งในไลน์โปรดักส์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ Segway เปิดตัวในงานเมื่อกลางปี 2022 ที่ผ่านมา โดยชื่ออย่างเป็นทางการคือ P65 และ P100S ซึ่งวันนี้เราจะมารีวิวเจ้า P100S กัน แต่ Segway ได้ทำเวอร์ชั่นต่าง ๆ มาเพื่อรองรับเพื่อรองรับกฎหมายที่ต่างกันในแต่ละประเทศ และที่ MONOWHEEL เรานำเข้ามาได้รหัสเป็น U Version มาทำให้เจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้มีชื่อว่า Segway P100SU จะเป็นยังไง ไปดูกัน

‍

มาดูภาพรวมเจ้า P100SU กันก่อนดีกว่า บอกเลยว่าหน้าตาคล้ายคลึงกับเจ้า Segway GT Series ชนิดที่มองเผิน ๆ อาจมีสับสน แต่บอกเลยว่าจุดเด่นแตกต่างกันชัดเจนเลย แล้วเจ้า P100SU จะเหมาะกับใคร ใช้งานประเภทไหน ดีไซน์ส่วนต่าง ๆ เป็นอย่างไร มารับชมไปพร้อม ๆ กัน

Perfect Handlebar

เราจะรีวิวดีไซน์กันตั้งแต่บนลงล่างเลยละกันจะได้เห็นมองภาพตามง่าย ๆ เริ่มจาก Handlebar ก่อนละกัน หลาย ๆ คนมองผ่าน ๆ แทบจะเรียกว่ายืมดีไซน์เจ้า GT1 มาแทบจะ 90% กันเลย ตัว Grip เป็นยางปั้มลายสวยงามมีโลโก้ Segway บริเวณข้าง ๆ จะมีรูสำหรับใส่ Accessories สุดพิเศษ ถัดเข้ามาข้างในส่วนของปุ่ม มีปุ่มให้กดเยอะเลยทีเดียว แต่ยังมีการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายเหมือนเดิม ไล่จากฝั่งขวาจะมีปุ่ม Power และปุ่ม Mode ซึ่งจะแยกกัน ส่วนฝั่งซ้ายจะมีปุ่ม Cruise Mode ที่หากกดจะเป็นการเปิดใช้งาน Cruise Control แต่หากหมุนจะเป็นการเปิดปิดไฟ และปุ่มไฟเลี้ยว คันเร่งยังเป็นแบบคันโยกเหมือน KickScooter รุ่นก่อน ๆ แม้กระทั่งเบรกก็ยังมี 2 ฝั่งเหมือนกับ GT

‍

Smart LED

ถัดมาถึงตรงกลางของ Handlebar อย่างหน้าจอ LED แม้แต่หน้าจอยังคล้ายคลึงกับเจ้า GT1 รายละเอียดบอกครบดังเดิมหลอดแบตเตอรี่ทั้งหมด 10 ก้อน โหมดขณะขับขี่ ความเร็วขณะขับ แถบอัตราเร่ง ไอคอนบลูทูธ ไอคอนเตือนอุณหภูมิสูง และไอคอนเตือนเมื่อเครื่องมีปัญหา ถึงแม้จะบอกรายละเอียดคล้าย ๆ กับ GT1 แต่สำหรับ P100SU ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีฟีเจอร์ลับพิเศษซ่อนอยู่ 

ความพิเศษอย่างแรกคือ หน้าจอของเจ้า P100SU รองรับระบบ NFC ด้วย ซึ่งภายในกล่องจะมี NFC Card มาให้ 2 ใบ ทำให้ความปลอดภัยและความง่ายดายในการใช้งานมากขึ้นตามมาแน่นอน ความพิเศษอย่างที่ 2 คือใต้หน้าจอ LED จะมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์จ USB Type-C ถือเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญและจำเป็นมาก ๆ อีกฟีเจอร์หนึ่ง 

‍

LED Light & Turning Light

ถัดจากหน้าจอเลื่อนลงมาดูที่ฝั่งด้านหน้ากันบ้าง เราจะเห็นไฟทั้งหมด 4 ดวงด้วยกัน โดยทั้ง 4 ดวงนี้ประกอบด้วย ไฟหน้า LED ขนาด 10 วัตต์ สว่างจนต้องร้องขอชีวิต ไฟ Daytime ไฟดวงเล็กดวงน้อยที่สามารถปรับให้เปิดเองอัตโนมัติได้เมื่อฟ้าเริ่มมืด และอีกสองดวงที่อยู่ด้านซ้ายด้านขวาก็คือ ไฟเลี้ยวนั่นเอง คือเป็นฟีเจอร์แรก ๆ ที่ควรมีหากเราใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนท้องถนนเลยนะครับ ไฟเลี้ยวสุดสว่างกด 1 ทีทำงานพร้อมกัน 3 จุดเลยทีเดียว

ลำคอสุดแข็งแรงพร้อมข้อพับสุดแข็งแกร่ง

ถัดมาที่ลำคอ แน่นอนว่าความแข็งแรงของลำคอยังคงเป็นวัสดุเกรดอากาศยานอย่างตามเคย มีสกรีนลาย Segway ช่วงล่างของลำคอมี Reflector ติดมาให้ถึง 3 อัน และวิธีพับคอของรุ่นนี้คล้ายกับ GT Series และ D38U นั่นคือล็อกคอแบบแนวตั้งที่ต้องดึงสลักค้างไว้ถึงจะปลดล็อกตัวคอได้ 

แท่นเหยียบสุดกว้างกับ Ambient Light สุดเก๋

ถัดลงมาที่ด้านล่างอย่างพาร์ทของแท่นเหยียบ แท่นเหยียบรุ่นนี้กว้างกว่า KickScooter รุ่นก่อน ๆ  และถึงคันจะรูปร่างใหญ่แต่มีระยะห่างจากพื้นถึง 15 ซม. ด้านหน้ามีช่องสำหรับชาร์จ ซึ่งมีดีไซน์คล้ายกับ GT อีกแล้วครับท่าน และข้าง ๆ จะมีไฟ Ambient Light ที่ไม่ได้มีประโยชน์แค่สวยเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถเพิ่มเติมอย่างเช่น เวลาเราเปิดไฟเลี้ยว Ambient Light จะกลายเป็นไฟเลี้ยวตาม หรือแม้กระทั้งเวลสาชาร์จแบต Ambient Light ก็จะแสดงสีแทนการบอกสถานะของแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน

ไฟท้ายสุดสว่าง

ด้านหลังจะมีช่องตะขอสำหรับเกี่ยวห่วงที่ใช้ล็อกคออยู่ด้วย และช่วงบริเวณตัวล็อกออกแบบมาให้ใช้เป็นที่พักเท้าได้ด้วย โดยรอบ ๆ ที่พักเท้าจะมีสีดงที่เป็นสีประจำรุ่นของ P100SU ถัดไปด้านหลังอีกจะมีบังโคลนที่ฝังไฟท้ายรูปตัว U พร้อมมีสกรีนชื่อรุ่น P100S ไว้เล็ก ๆ และถ้าบังโคลนเดียวยังไม่พอ ยังมีบังโคลนเสริมพร้อม Reflector ยักษ์ให้มาอีกด้วย

Exclusive Feature : Projection Lamp

ถึงแม้จะมีทั้งไฟหน้า ไฟ Daytime ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟ Ambient Light แล้ว P100SU ยังมาพร้อมกับไฟพิเศษเฉพาะตัวอย่าง Projection Lamp ไฟปีกท้ายที่จะฉาย Logo Segway บอกเลยว่าถึงจะไม่ใช่ฟีเจอร์ที่สำคัญต่อการขับขี่ แต่มีไว้เท่กว่าแน่นอนครับ P100SU ขับไปไหน ใคร ๆ ก็รู้ 

ยางสุดพิเศษ พร้อมเบรกถึง 3 ชิ้น

สำหรับยางและเบรกของรุ่นนี้ เริ่มจากอย่างก่อน ยางรุ่นนี้เป็นยาง Tubeless เคลือบสารกันรั่วซึม ขนาดใหญ่กว่าเดิมเพิ่มเป็น 10.5 นิ้ว และหน้ายางกว้างถึง 3 นิ้วด้วยกัน และยางเส้นนี้เป็นยางพิเศษที่ทาง Segway ทำขึ้นมาเองโดยเฉพาะ โดยใช้ชื่อว่า Segpower CrossSeason ออกแบบมาให้ทนทุกการใช้งานทุกท้องถนนและทุกสภาพอากาศ และมาต่อกันที่เบรก สำหรับ P100SU พิเศษที่สุดแน่นอนเพราะมีเบรกให้มาถึง 3 เบรก ล้อหน้าเป็นเบรกดิสก์เบรก และล้อหลังเป็นดิสก์เบรกเช่นกันพ่วงด้วยเบรกไฟฟ้าอีกตัว เบรกทีหยุดให้แน่นอน

Front & Rear Suspension : Torsion Bar

ถ้า Projection Lamp เป็นฟีเจอร์พาร์ทที่ไม่เกี่ยวกับการขับขี่ ฟีเจอร์นี้ก็คือพาร์ทที่เกี่ยวกับการขับขี่แบบ 100% เพราะมันคือระบบช่วงล่างนั่นเอง หรือคนอาจจะเข้าใจง่าย ๆ ถ้าเรียกว่าโช้ค (Shock) โดย P100SU มาพร้อมโช้คพิเศษเฉพาะรุ่นอย่าง Torsion Bar (ทอร์ชั่น บาร์) ช่วงล่างที่คอยดูดซับแรงสั่นสะเทือนเมื่อเจอพื้นที่ขรุขระทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยสามารถยุบตัวได้มากถึง 1.5 นิ้วเลยทีเดียว 

จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับพาร์ทรีวิวดีไซน์ต่อไปเรามารีวิวกันในส่วนของฃพาร์ทของตัวเลขสเปคกันบ้างดีกว่า บอกเลยว่าแค่ดีไซน์มันยังสุดยอดไม่พอจริง ๆ สำหรับ P100SU 

เจ้า Segway P100SU สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 40 + 8 กม/ชม. งงล่ะสิว่าทำไมถึงไม่เรียกว่าความเร็วสูงสุด 48 กม/ชม.ไปเลย เดี๋ยวได้เข้าใจแน่นอน กำลังมอเตอร์สูงสุดของรุ่นนี้อยู่ที่ 1,350 วัตต์ เป็นมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง และมีเปอร์เซนต์การขึ้นทางชันสูงถึง 23% 

โหมดการขับขี่ของรุ่นนี้มีให้มาถึง 6 โหมด โดย 4 โหมดเป็นโหมดของการขับขี่ และอีก 2 โหมดเป็นโหมดเสริม โดยโหมดการขับขี่จะมีดังนี้ 

Park Mode เป็นโหมดที่จะทำงานอัตโนมัติเวลาเครื่องหยุดอยู่กับที่

ECO Mode ทำความเร็วสูงสุด 18 กม/ชม. 

Drive Mode ทำความเร็วสูงสุด 40 กม/ชม.

Sport Mode (สีขาว) ทำความเร็วสูงสุด 40 กม/ชม.

Sport Mode (แดง) ทำความเร็วสูงสุด 48 กม/ชม.

‍

ส่วนโหมดเสริมอีก 2 โหมดจะมี

Walk Mode โหมดสำหรับการขับขี่บนทางเท้า ทำความเร็วสูงสุด 5 กม/ชม. 

Assist Mode โหมดสำหรับใช้ส่งแรงเวลาต้องเข็น ทำความเร็วสูงสุด 5 กม/ชม.

*หลายคนอาจสงสัยว่าเจ้า 2 โหมดเสริมนี้ความเร็วเท่ากัน แล้วมันจะแยกกันทำไม คำตอบคือทั้งสองโหมดนี้ไม่ได้มีวิธีใช้งานที่เหมือนกันทีเดียวเพราะวิธีการเปิด - ปิดการใช้งานของ Walk Mode ต้องเปิดในแอป Segway-Ninebot ส่วน Assist Mode สามารถเปิดได้โดยการกดคันเร่งค้างไว้ 5 วินาที และกำเบรกมือเพื่อปิด นอกจากนี้ Walk Mode จะมีอัตราเร่งที่สูงกว่า Assist Mode เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน

‍

P100SU มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ถึง 23,000 mAh และเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของ segway รุ่นแรกที่สามารถทำระยะวิ่งต่อชาร์จได้ถึง 100 กม.ต่อชาร์จ พระเจ้า วิ่งยาวจนเผลอหลับแน่นอน ชื่อ P100SU ไม่ได้มาเล่น ๆ จริง ๆ ในส่วนของน้ำหนักจะมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 32.9 กก. และรับน้ำหนักผู้ขับขี่ได้มากถึง 120 กก. ซึ่งน้ำหนักอาจจะถือว่าหนักไปนิดนึงสำหรับผู้หญิง

‍

มาตรฐานหลัก ๆ อย่างมาตรฐาน UL และมาตรฐาน IP สำหรับ P100SU ผ่านการรองรับครบถ้วนไม่มีตกบกพร่อง มาตรฐาน UL สำหรับแบตเตอรี่ยังคงผ่านทั้ง UL-2271 และตัวเครื่องยังคงผ่านทั้ง UL-2272 และมาตรฐานที่ตามหากันอย่าง IP รุ่นนี้ตัวเครื่องยังเป็น IPX5 และแบตเตอรี่ IPX7 ดังเดิม ฝนปรอย ๆ ยังคงผ่านฉลุยสำหรับเจ้า P100SU

‍

แม้แต่ประกันก็เด่นจะเด่นกว่าเค้าเพราะในส่วนของโครงสร้างและเฟรมบางส่วน มีการรองรับประกันสูงสุดถึง 3 ปี ส่วนตัวเครื่องยังคง 2 ปี และแบตเตอรี่ 1 ปีตามลำดับ และพิเศษเหมือนเดิมเพราะหากซื้อกับทางเรา ถึงจะหมดประกันก็ยังสามารถส่งซ่อมได้ตลอดการใช้งาน

แอปพลิเคชั่น

เข้ามาที่หน้าแรกของแอปยังคงหน้าตาเดิม ๆ บอกปริมาณแบตเตอรี่ บอกระยะทางทั้งหมดที่ขับ บอกระยะทางที่ยังขับได้ มี Riding Record ไว้บันทึกเส้นทาง ด้านล่างมี Cruise Control, Regenerative Brake สำหรับปั่นไฟกลับเข้าเครื่อง และ Tail Light สำหรับปรับไฟท้าย หน้าแรกอาจจะยังไม่หน้าสนใจ เราไปต่อกันที่ฟีเจอร์ด้านในกัน

เข้ามาข้างในแล้วจะพบว่าเยอะมากกกกก เยอะจนไม่รู้จะกดลองอะไรกัน แต่บล็อกนี้พาไปลองทำความรู้จักทุกอันแน่นอนไม่ต้องกลัว ว่าแล้วเราก็มาไล่จากบนลงล่างเลยละกัน 

เริ่มจากอัปเดตเฟิร์มแวร์, Cruise Control, Energy Recovery ซึ่งของ P100SU จะพิเศษกว่าหน่อยตรงที่ตัว Energy Recovery จะมีระดับ Disable เพิ่มมาด้วยสำหรับใครที่อยากปิดการใช้งานเจ้า Regenerative Brake เพราะสำหรับสายขับเร็ว ๆ ถ้ามอเตอร์หน่วงอาจจะขัดฟีลการขับไปสักหน่อย Segway ก็เลยเพิ่มให้ปิดได้มาซะเลย

Lighting Effect

มาต่อกันที่ Lighting Effect สำหรับปรับไฟ โดยจะมีปรับไฟท้ายที่จะปรับให้มันสว่างตลอดหรือสว่างแค่ตอนกำเบรก และจะให้มันสว่างเฉย ๆ หรือจะให้มันกระพริบก็ปรับได้เลย ไฟต่อไปคือไฟ Ambient Light ที่สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิด และปิดท้ายด้วย Exclusive Feature อย่าง Projection Lamp หรือไฟปีกนั่นเอง ซึ่งเราสามารถปรับได้ว่าจะให้มันสว่างค้างหรือกระพริบนั่นเอง บอกเลยว่าแบบไหนก็สวย

Riding Habits 

Riding Habits จะเป็นหมวดสำหรับปรับฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการขับขี่เป็นหลัก ซึ่งหมวดนี้ถือเป็นทีเด็ดอย่างนึงของฟีเจอร์การเชื่อมแอปเลยก็ว่าได้ เริ่มจาก Walk Mode เล่าไปแล้วว่าสำหรับการขับขี่บนทางเท้าซึ่งต้องเปิดและปิดผ่านการเชื่อมแอปเท่านั้น

Starting Speed 

โหมดนี้จะเป็นโหมดที่ปรับการออกตัวได้ว่าจะต้องเริ่มด้วยความเร็วเท่าไหร่มอเตอร์ถึงจะทำงาน ซึ่งปรับได้ตั้งแต่ 0 - 5 กม. ใครไม่ชอบเอาขาไถก็ตั้งเป็น 0 km/h ซะเลยจะได้กดแล้วพุ่ง แต่เพื่อความปลอดภัย หากตั้ง Starting Speed ไว้ที่ 0 km/h เวลาเครื่องจอดอยู่นิ่ง ๆ 3 วินาที Park Mode จะทำงานอัตโนมัติทันที เพื่อเป็นการป้องกันมือไปโดนคันเร่งแล้วเครื่องจะทำงาน บอกเลยว่าตรงนี้ดีและปลอดภัยมาก ๆ 

Electric Brake Level

ถัดมาที่ Electric Brake Level หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือฟีเจอร์เดียวกับ Regenerative Brake ซึ่งไม่ใช่ เพราะฟีเจอร์นี้เป็นการเลือกความแรงในกรทำงานของเบรกไฟฟ้า เช่น ถ้าเกิดเราตั้งไว้ที่ Strong แล้วเวลาเบรกรู้สึกว่ามันกระตุกแรงเกินไป เสี่ยงที่จะล้ม เราแค่ปรับความแรงของเบรกไฟฟ้าลงมาเพื่อลดความแรง หรือจะสามารถปิดการทำงานของเบรกไฟฟ้าเลยก็ยังได้ 

Higher Speed in S Mode & Acceleration in S Mode

ถ้ายังจำจากที่เล่าข้างบนได้ ที่ความเร็วสูงสุดของ P100SU คือ 40 + 8 กม/ชม. โหมดนี้คือคำตอบว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นครับ หากเราไม่ได้เปิดโหมดนี้ ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 40 กม/ชม. แต่ถ้าเราเปิดใช้งานปุ๊ปความเร็วสูงสุดจะถูกปลดลิมิตและเพิ่มเป็น 48 กม/ชม.ทันที โดยถ้าเราจะสังเกตได้ว่าเราเปิดใช้งานโหมดนี้อยู่มั้ย สามารถสังเกตได้ที่โหมด Sport บนหน้าจอ หากคำว่า Sport เป็นสีขาวแสดงว่าเรายังไม่ได้ทำการปลดลิมิตความเร็ว แต่ถ้าเกิดคำว่า Sport เป็นสีแดงเมื่อไหร่ แสดงว่าความเร็วถูกปลดลิมิตอยู่นั่นเอง ฟังก์ชั่นสุดท้ายของ Riding Habits นั่นคือ Acceleration in S Mode หรือก็คืออัตราเร่งของ S Mode นั่นเอง บางครั้งเราอาจจะอยากขับแบบปลดลิมิตความเร็ว แต่ …. อยากขับแบบช้า ๆ เพราะ 48 กม/ชม.ไม่ใช่น้อย ๆ เลยสำหรับการขับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า บางคนอาจจะชอบฟีลขับแบบช้า ๆ มากกว่า Segway ก็เลยใส่ฟีเจอร์นี้เข้ามา เรียกได้ว่าแทบจะ Custom การขับขี่ไดแทบทุกอย่างเลย

NFC Key

ฟีเจอร์ต่อไปเป็น NFC และ Password ซึ่งอย่างที่เรารู้กันแล้วว่า P65U สามารถเปิด - ปิดตัวเครื่องผ่าน NFC Card แต่ถ้าเกิดเราทำการ์ดหาย หรือการ์ดเราตกไปอยู่กับคนอื่นต้องทำยังไง ? เราก็แค่เข้ามาเลือกตรงฟีเจอร์ NFC Key แล้วกดปิด เท่านี้ตัว NFC Card 2 ใบที่ให้มาก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปจนกว่าเราจะมาเปิดใช้งานในแอปเหมือนเดิม

Unlocking Password

ต่อไปเป็นส่วนของ Unlocking Password เช่นเดียวกับ NFC Card ที่สามารถเปิด - ปิดผ่านการใช้รหัส 4 หลักได้ และถ้าหากมีคนรู้รหัสผ่านเรา เราก็แค่เปลี่ยนรหัสผ่าน หรือจะปิดการใช้งานรหัสผ่านเลยก็ได้ เท่านี้ก็ปลอดภัยต่อคนที่รู้รหัสผ่านเราแล้ว 

Vehicle Lock & Anti-Theft Alarm 

Vehicle Lock เป็นโหมดที่ที่หากเราปิด ไม่ว่าใครก็จะสามารถเปิดใช้งานได้เลย อาจจะเหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกัน หรืออยู่ในที่ส่วนตัว เลยไม่ต้องคอบล็อกเครื่องและคอยใส่รหัสทุกครั้งเวลาใช้งาน ส่วน Anti-Theft Alarm ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์กันขโมยอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งหากเราเปิดทำงาน เวลามีคนมายกหรือมาเลื่อนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเรา เครื่องจะร้องทันที จะร้องหนักร้องเบาขึ้นอยู่กับที่เราปรับเลย หรือจะปิดการทำงานเลยก็ได้ บอกเลยว่าคนขโมยมีอายแน่นอนถ้าเครื่องร้อง เพราะน้องร้องแบบโหยหวนมาก 

Charging Limit 

และฟีเจอร์สุดท้ายคือ Charging Limit ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สามารถปรับลิมิตของแบตเตอรี่การชาร์​จได้ โดยจะปรับได้ตั้งแต่ 80 - 100 % ซึ่งแต่ละล็อกที่ปรับได้จะเพิ่มขึ้นทีละ 5 % หลายคนสงสัยอีกแล้วแน่นอนว่าเราจะปรับให้แบตเตอรี่เต็มที่แค่ 80 % ไปเพื่ออะไร ซึ่งการคุมลิมิตแบตเตอรี่จะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยืนยาวขึ้นนั่นเอง เทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ หากแบตเตอรี่ 100 % เต็มสามารถขับได้ 100 กม. แบตเตอรี่ 80 % ก็สามารถขับได้ 80 กม.ต่อชาร์จนั่นเอง ซึ่งไม่น้อยเลย 

จบกันไปแล้วสำหรับรีวิวสุดละเอียดของเจ้า P100SU สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบและใส่ฟีเจอร์มาอย่างบรรจงและครบครัน ด้วยฟีเจอร์ที่สำคัญในการใช้งานอย่างไฟเลี้ยว, NFC Card หรือ USB Type-C Port ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยแล้ว ในด้านของความเร็วที่ได้มา ล้อ เบรก และระบบช่วงล่างทำให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้เหมาะกับสายขับขี่ที่เน้นสมรรถนะด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบจริง ๆ

‍