เจาะลึก Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition โกคาร์ทไฟฟ้าทรงสปอร์ตสาย Limited

พามาเจาะลึกกันว่า Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition มีอะไรที่พิเศษแตกต่างกันบ้าง หาคำตอบได้ในบทความนี้เลย

Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition

September 21, 2022

ดีไซน์

Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม และไม่เหมือนรุ่นอื่น โดยทาง Segway-Ninebotได้ใช้สีเหลือง Giallo Orion ที่เป็นสีเหลืองลิขสิทธิ์แท้จากทางLamborghini รวมถึง Logo แท้จากทาง Lamborghini ตกแต่งตัวรอบคันรถโกคาร์ทคันนี้ให้เป็นเหมือนรถ Lamborghini คันนึงเลย

และพรีเมี่ยมยิ่งกว่าเดิมด้วยเพลทเหล็กสีทอง ที่ระบุเลข Chassis Number ประจำรถโกคาร์ทแต่ละคันมีให้ในกล่องเฉพาะ Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition เท่านั้น

ในส่วนอื่น ๆ ของ Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition ก็ถอดดีไซน์จากรถซูเปอร์คาร์มาเลยไม่ว่าจะเป็นแป้นเหยียบเบรกและคันเร่งที่ทำจากโลหะ, ที่นั่งแบบ Bucket seat โอบกระชับไม่ให้ตัวผู้ขับขี่เกิดอาการเหวี่ยงเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว,ปีกหลังทรงสปอร์ต (Rear Wing) ช่วยเพิ่มแรงกดจากหลักอากาศพลศาสตร์(Aerodynamic) ทำให้เกิด Downforce ส่งผลให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

ไฟ LED

ถ้าคิดว่าแค่นี้สวยแล้ว มาดูตอนกลางคืนกันก่อนเพราะ Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition มีไฟ LED ตกแต่งทั้งด้านหน้าและด้านหลังโดยไฟหน้าจะเป็น LED สีฟ้า ตัดกับสีเหลือง Giallo Orion ได้อย่างสวยงาม

และยังมีไฟ RGB ใต้ท้องเครื่องที่สามารถปรับสีได้กว่า 9 รูปแบบผ่าน Application Segway-Ninebot สวยมากในเวลากลางคืน และมีไฟ LED สีขาวที่ท้ายเครื่อง ช่วยให้มองเห็นได้ง่ายในเวลากลางคืน

การดริฟต์ด้วย Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition

Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition ออกแบบมาให้ทุกคนสามารถดริฟต์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบ Dynamic Turning System ที่ช่วยส่งกำลังให้ล้อหลังเข้าโค้งดริฟต์ได้โดยสามารถปรับระดับได้การเข้าโค้งให้ Understeer หรือ Oversteer ผ่าน Application Segway-Ninebot ถ้าดันไปทาง Oversteer มาก ก็จะยิ่งให้เข้าโค้งแล้วท้ายสะบัดได้มากขึ้น

ถ้ายังดริฟต์ไม่สะใจพอ ยังสามารถใช้ Hand Brake (เบรกมือ) เพื่อสร้างแรงฉุดที่ล้อหลัง ทำให้เข้าดริฟต์ได้สนุกเข้าไปได้มากกว่าเดิม

นอกจากระบบ Dynamic Turning System และ Hand Brake แล้ว ยังมีการออกแบบการวางน้ำหนักตัวเครื่องในอัตราส่วนด้านหน้าหนัก40% ด้านหลัง 60% ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถเครื่องวางหลัง ขับหลัง ท้ายสะบัดดริฟต์กระจุย

เพิ่มเติมด้วยล้อหลัง TPE แบบ Slick หน้ากว้าง ลักษณะคล้ายคลึงกับที่ใช้ในรถแข่ง Formula 1 มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับถนน ให้ความรู้สึกเหมือนได้ขับรถแข่งกันเลยทีเดียว

กำลังมอเตอร์ และความเร็วสูงสุด

ด้วยฟังก์ชันการดริฟต์ขนาดนี้ก็แน่นอนว่าเรื่องพละกำลังก็ให้มาแบบไม่เป็นสองรองใคร ด้วยมอเตอร์คู่ส่งกำลังสูงสุดมอเตอร์ละ 2,400 Watts รวมเป็นกำลังสูงสุดถึง 4,800 Watts ทำให้ส่งเจ้า Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition ไปถึงความเร็วสูงสุด 40 กม./ชม. ได้ภายในเวลาแค่เพียง 5 วินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าซิ่งกันจนหลังติดเบาะกันเลยทีเดียว

โหมดความเร็ว

ส่วนใครที่ยังไม่ชินกับความเร็วของเจ้ารถโกคาร์ทNinebotGokart Pro Lamborghini Edition ก็ยังสามารถปรับระดับความเร็วให้เหมาะสมกับผู้เล่นแต่ละคนได้4 ระดับด้วยกัน โดยชื่อโหมดได้มีการถอดแบบมาจากโหมดขับขี่ของรถสปอร์ต Lamborghini ด้วย

1. ECO Mode 8 กม./ชม. เป็นโหมดที่มีความเร็วที่ต่ำที่สุด เหมาะกับการให้น้องๆ หนู ๆ ที่ยังบังคับรถได้ไม่แข็งได้เริ่มต้นทดลองขับก่อนอย่างปลอดภัย และโหมดนี้จะช่วยให้ใช้งานในระยะทางที่ไกลที่สุดอีกด้วย

2. STRADA Mode 18 กม./ชม. คำว่า STRADA หมายถึงถนนเป็นโหมดที่เหมาะกับการขับขี่ในบริเวณหมู่บ้านที่มีรถสวนไปมา และเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทดลองขับเพราะจะมีความเร็วและอัตราเร่งที่ไม่สูงจนเกินไป

3. SPORT Mode 28 กม./ชม. เป็นโหมดที่มีความเร็วสูงขึ้นมา เหมาะกับผู้ที่ขับได้คล่องแล้วและต้องการสัมผัสความเร็วที่มากขึ้น

4. CORSA Mode 40 กม/ชม. และโหมดความเร็วสุดท้ายโหมด CORSA มีความหมายว่าการแข่งขันรถ เป็นโหมดที่ปลดล็อกความเร็วสูงสุด 40 กม/ชม. และอัตราเร่งสูงสุดเช่นกันเหมาะสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ที่โล่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่

นอกจากนี้ยังมีเกียร์ถอยมาให้ด้วยนะ ใช้งานง่ายๆ เพียงแค่แตะเบรก 2 ครั้ง แล้วรถจะมีเสียงดังปี๊บ ๆ แสดงถึงสถานะว่ากำลังเข้าเกียร์ถอยและแตะเบรก 2 อีกครั้งเพื่อกลับมาเป็นเกียร์เดินหน้า

‍

การปรับระดับตัวรถ และการพับเก็บ

นอกจากการปรับโหมดความเร็วแล้ว Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition ยังสามารถปรับระดับความยาวของรถโกคาร์ทได้3 ระดับด้วยเช่นกัน ทำให้เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีความสูงตั้งแต่ 110 cm. จนไปถึงผู้ใหญ่ที่มีความสูงถึง 190 cm. ก็สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหาและสำหรับน้อง ๆ ที่มีความสูงต่ำกว่า 110 cm. ก็สามารถใช้หมอนช่วยหนุนหลังเพื่อให้เหยียบคันเร่งให้ถึงได้ด้วยเช่นกัน

ลำโพงจำลองเครื่องยนต์

ถ้าใครที่ยังไม่รู้สึกซิ่งพอ เรามีลำโพงจำลองเครื่องยนต์จัดมาในชุดด้วยช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ให้สมจริงมากยิ่งขึ้น ด้วยลำโพง Bluetooth คุณภาพสูง จำลองเสียงเครื่องยนต์ได้ถึง 5 แบบ

1. Single-Cylinder (เครื่องยนต์สูบเดียว)

2. Two-Cylinder (เครื่องยนต์สองสูบ)

3. V8 (เครื่องยนต์ 8 สูบ)

4. V12 (เครื่องยนต์ 12 สูบ)

5. Electric Engine (เครื่องไฟฟ้า)

ถอดล้อหลังออกมาเป็น Balance Board Ninebot S-MAX

ถ้าวันไหนอยากเปลี่ยนสไตล์การขับขี่ ก็สามารถถอดล้อหลังออกมาเป็นบาลานซ์บอร์ด2 ล้อ Ninebot S-MAX ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อ Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition ไปคันเดียว แต่เอาไปเล่นเป็นโกคาร์ทก็ได้ และเล่นเป็นบาลานซ์บอร์ดก็ได้เช่นกัน

เชื่อมต่อ Application Segway-Ninebot

สามารถเชื่อมต่อ Application Segway-Ninebot เพื่อปรับฟังก์ชันต่าง ๆ ทั้ง Dynamic Turning System, ไฟ LED, โหมดความเร็ว, การอัพเดท Firmware รวมถึงบอกสถานะของแบตเตอรี่และระยะทางที่สามารถใช้ได้อีกด้วย

ด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ของ Ninebot Gokart Pro Lamborghini Edition ทำให้มันเป็นรถโกคาร์ทไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยด้วยระบบการขับขี่ที่ปลอดภัยจึงสามารถเล่นได้ทั้งบ้านตั้งแต่คุณลูกจนถึงคุณพ่อแม่ แต่ก็ยังเต็มไปด้วยขุมพลังที่ไม่ทิ้งลายความเป็นรถสปอร์ตตามสไตล์ Lamborghini แถมด้วยฟังก์ชั่นการถอดล้อหลังมาเป็นบาลานซ์บอร์ด Ninebot S-MAX ที่พิเศษเฉพาะ Ninebot Gokart เท่านั้น

ถ้าอ่านบล๊อกนี้แล้วยังไม่สะใจสามารถค้นคว้ารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.monowheel.bike/ninebot-gokart-pro-lamborghini-edition