Ninebot Gokart PRO vs Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition เปรียบเทียบให้ชัดๆมีข้อแตกต่างอะไรบ้าง

Ninebot Gokart PRO เป็นโกคาร์ทไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาโดย Ninebot by Segway และได้เปิดตัวในปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ มีความสปอร์ต ถอดแบบมาจากรถ supercar ที่เมื่อใครเห็นก็ต้องอยากขับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบการเข้าโค้งอัจฉริยะ (Dynamic Turning System) ที่ทำให้โกคาร์ทไฟฟ้ารุ่นนี้ดริฟท์เข้าโค้งได้ให้ความรู้สึกเสมือนการดริฟท์รถจริงๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะในโกคาร์ทไฟฟ้า Ninebot Gokart PRO เท่านั้น!‍

Ninebot Gokart PRO มีกี่รุ่น?

Ninebot Gokart PRO ในท้องตลาดที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันหลักๆจะมีอยู่สองรุ่นได้แก่ Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) ที่มาพร้อมกับสี Metallic Dark Gray เป็นสีเทาเข้มสุดดุดัน ส่วนตัว Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition จะมาพร้อมกับสี Giallo Orion Yellow ซึ่งเป็นสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์รถสุดหรูจากอิตาลี่อย่าง Lamborghini

Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) vs Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition แตกต่างกันอย่างไร?

เบื้องต้นสำหรับ Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) รุ่นปี 2021  เป็นต้นไปเมื่อเทียบกับ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition ในเรื่องสเปคความเร็วและสมรรถนะของตัวเครื่องต่างๆนั้นเบอกได้เลยว่าหมือนกันแบบ 100% อย่างไม่ต้องสงสัย ความเร็วสูงสุด 40 km/ h เท่ากัน และฟีเจอร์ต่างๆผ่านในแอพพลิเคชั่นก็เหมือนกัน...อ่าวแล้วถ้าอย่างงั้นยังมีจุดไหนที่ต่างอีก? วันนี้ MONOWHEEL จะพาไปดูจุดที่เเตกต่างกันที่หลายคนยังไม่รู้ตามหัวข้อด้านล่างครับ

1. การ Activate ของตัวเครื่อง

2. แอพพลิเคชั่นสำหรับการเชื่อมต่อ Ninebot Gokart PRO ทั้ง 2 รุ่น ระหว่าง Gokart Mode และ Balance Mode (S-MAX)

3. การใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น

4. อุปกรณ์ต่างๆภายในกล่อง

ความแตกต่างของการ Activate ตัวเครื่องระหว่าง Ninebot Gokart PRO และ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition

การ Activate  ตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นนี้จะมีความเเตกต่างกันตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียนเริ่มต้นใช้งานแอพพลิเคชั่นโดย?MONOWHEEL จะมาอธิบายทีละรุ่นว่าแต่ละรุ่นมีความเเตกต่างกันอย่างไรโดยเริ่มจาก

1. Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) โกคาร์ทไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานกับแอพพลิเคชั่น Segway - Ninebot ในเวอร์ชั่นที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก (Global Ver.) นั่นหมายความว่าลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าผ่านศูนย์บริการ MONOWHEEL สามารถ Activate เครื่องได้ด้วยตนเอง (เบอร์ไทย) โดยเริ่มจากดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น (Global Ver.) จากนั้นกดเลือกประเทศไทย จากนั้นลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ของตนเองแล้วทำการ Activate ตามขั้นตอนได้เลย เพียงเท่านี้ลูกค้าก็จะสามารถสนุกกับ Ninebot Gokart PRO ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

2. Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition สำหรับโกคาร์ทไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้รองรับกับแอพพลิเคชั่น Segway - Ninebot ในเวอร์ชั่นที่ใช้ได้เฉพาะประเทศจีนเท่านั้น (Chinese Ver.) โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Segway - Ninebot (Chinese Ver.) จากนั้นลูกค้าต้องทำการลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นโดยใช้เบอร์ประเทศจีนเท่านั้นลูกค้าถึงจะสามารถ Activate เครื่องตามขั้นตอนได้ หากลูกค้าไม่มีเบอร์ประเทศจีนลูกค้าจะไม่สามารถลงทะเบียนและทำการ Activate ไ่ด้

ในข้อของการ Activate ตัวเครื่องของ Ninebot Gokart PRO ทั้ง 2 รุ่น นั้นมีความจำเป็นอย่างมากเนื่องจากจะทำให้ตัวเครื่องทั้งสองรุ่นนั้นสามารถเล่นที่โหมดความเร็วสูงสุดได้ (Track Mode)โดยมีความเร็วอยู่ที่ 40 กม/ชม. และใช้งานฟีเจอร์อื่นๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นสำหรับ Ninebot Gokart PRO ทั้ง 2 รุ่น

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นสำหรับ Ninebot Gokart PRO ทั้ง 2 รุ่นจะสามารถแบ่งได้เป็นการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นเป็น 2 โหมดนั่นก็คือ Gokart Mode และ Balance Mode โดยจะขอแบ่งการอธิบายตามหัวข้อดังนี้ครับ

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Gokart Mode สำหรับ Ninebot Gokart PRO (Standard Edition)

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นในโหมดของ Gokart Mode สำหรับ Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) นั้นทำได้ง่ายมากเพียงแค่ลูกค้าเปิดแอพพลิเคชั่น Global Ver. แล้วทำการต่อกับตัวเครื่องกับแอพพลิเคชั่นผ่านระบบบลูทูธ เพียงเท่านี้่ลูกค้าก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆของตัวเครื่องผ่าน แอพพลิเคชั่น Global Ver. ได้เลย

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Gokart Mode สำหรับ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นในโหมดของ Gokart Mode สำหรับ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition จะทำได้ยุ่งยากกว่าเนื่องจากที่ได้กล่าวไปตอนต้น Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition ถูกออกแบบมากให้รองรับการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Chinese Ver. โดยลูกค้าจะต้องลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นโดยใช้เบอร์จีนเท่านั้น ถึงจะสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นเพื่อเชื่อมต่อกับ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition ใน Gokart Mode ได้ เพื่อใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ

Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition หากไม่มีเบอร์จีนจะไม่สามารถลงทะเบียนเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชั่น Segway - Ninebot Chinese Ver. ได้จะทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อโหมด Gokart รวมถึงใช้งานฟีเจอร์ต่างๆภายในแอพพลิเคชั่นได้เลย

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Balance Mode สำหรับ Ninebot Gokart PRO และ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Ediion

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่หลายคนต้องลองเล่นคือ Ninebot Gokart PRO ทั้ง Standard Edition และ Lamborghini Edition สามารถถอดล้อหลังออกมาเล่นเป็นบาลานซ์บอร์ดได้ โดยทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนโหมดมาเป็น Balance Mode ได้โดยเปลี่ยนโหมดผ่านแอพพลิเคชั่น Global Ver. ได้ทั้ง 2 รุ่น

การต่อแอพพลิเคชั่นสำหรับ Gokart Mode  ได้ดีอย่างไร ?

1. Avtivate ตัวเครื่องเพื่อให้เล่นในโหมดความเร็วสูงสุดได้ (หากไม่ Activate จะเล่นได้ที่ความเร็วไม่เกิน 20 km/hr)

2. ล็อคความเร็วตามโหมดต่างๆ

3. สามารถปรับ Dynamic turning ตั้งค่า Under/Over steering เพิ่มความสนุกในการขับ และดริฟท์

4. ปรับเปลี่ยนสีไฟ เพิ่มเอกลักษณ์ให้กับรถคันโปรด

5. ตรวจสอบสภาพเครื่อง, ระยะวิ่ง, ความจุแบต และ Self-diagnosis ความผิดปกติของตัวเครื่อง

คำเตือน ! Ninebot Gokart PROL amborghini Edition หากเล่นโดยไม่ต่อแอพพลิเคชั่น Chinese version มีข้อเสียอย่างไรบ้าง

1. จะสามารถปรับโหมดได้ที่ Speedometer เท่านั้น

2. เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กต้องปรับโหมดที่ Speedomter ให้เป็น Safe Mode แล้วถอด Speedometer ออกเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กปรับความเร็วเพิ่มด้วยตนเองจนก่อให้เกิดอันตราย

3. จะไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ในข้อ 3-5 ที่กล่าวไปข้างต้นได้

อุปกรณ์ที่ต่างในกล่องของ Ninebot Gokart PRO vs Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition

อุปกรณ์ต่างๆสำหรับการใช้งานภายในกล่องของ Ninebot Gokart PRO ทั้ง 2 รุ่นที่มีมาให้นั้นเหมือนกันหมดจะแตกต่างกันเพียงแค่ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition จะมีเลข CHASSIS NUMBER มาให้เท่านั้นเองครับ

สรุปภาพรวม

จากเนื้อหาที่กล่าวมาในเรื่องของสเปคและฟีเจอร์ต่างๆสำหรับตัว Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) และ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition นั้นไม่มีความแตกต่างกันเลย แต่จุดที่แตกต่างกันหลักๆคือในเรื่องของการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นที่ตัว Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition จะมีข้อจำกัดมากกว่ารุ่น Standard Edition เนื่องจากต้องใช้แอพพลิเคชั่น Segway - Ninebot Chinese Ver. เท่านั้นที่จำเป็นต้องใช้เบอร์จีนเพื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบถึงจะสามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นกับ Ninebot Gokart PRO Lamborghini Edition เพื่อการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ จะแตกต่างกับ Ninebot Gokart PRO (Standard Edition) ที่สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาแล้วก็ลงทะเบียนใช้งานโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ของตนเองได้ตามปกติ ทำได้ง่ายภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีก็สามารถสนุกแบบจัดหนักจัดเต็มได้เลย

‍