[Review] รีวิวเปรียบเทียบ MONOWHEEL Duo 2R vs Ninebot S vs Ninebot miniPRO โฮเวอร์บอร์ดยอดฮิตที่สุดในปี 2020
เปรียบเทียบสเปคและฟีเจอร์อย่างละเอียดกับโฮเวอร์บอร์ดไฟฟ้า 3 รุ่นยอดฮิตปี 2020
โฮเวอร์บอร์ด คืออะไร
โฮเวอร์บอร์ด เป็นยานพาหนะทรงตัวไฟฟ้า 2 ล้อ ที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ เพราะเล่นง่ายและสนุกเนื่องจากมีระบบ auto self balance ทำให้การทรงตัวนั้นทำได้ง่ายและตอบสนองต่อการควบคุมได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้ทาง MONOWHEEL เลยอยากจะมารีวิวโฮเวอร์บอร์ดที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรา มีทั้งหมด 3 รุ่นนั่นก็คือ MONOWHEEL Duo 2R, Ninebot S และ Ninebot miniPRO
3 รุ่นนั้นมีอะไรบ้าง
MONOWHEEL Duo 2R ตัวเล็กสุดฮิต เน้นการพกพา ใช้คล่อง ยกไปไหนก็ได้
Duo 2R เป็นโฮเวอร์บอร์ดขนาดเล็ก ที่เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาด ณ เวลานี้ เพราะตัวเครื่องนั้นมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาพกพาง่าย แถมมีถึง 3 สีให้เลือกคือ สีแดง, สีน้ำเงินและสีดำครับ
ในเรื่องของสเปค ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 8 กิโลกรัม มอเตอร์ที่ล้อมีกำลังข้างละ 250 วัตต์รวม 2 ข้างก็มีกำลังมอเตอร์สูงถึง 500 วัตต์ทำความเร็วได้สูงถึง 15 กม/ชม. และวิ่งได้สูงสุด 8 กม./ชาร์จ ล้อยางตันขนาด 6 นิ้ว รับน้ำหนักได้ 80 กิโลกรัมและที่สำคัญคือมีระบบ auto self balance ทำให้ทรงตัวง่ายสำหรับคนที่เล่นครั้งแรก จากสเปคคร่าวๆแค่นี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวกับ MONOWHEEL Duo 2R
Ninebot S โฮเวอร์บอร์ดรุ่นน้องแต่สเปคไม่น้องเลยนะ
Ninebot S เป็นโฮเวอร์บอร์ดจากทาง Segway ที่มีการเปิดตัวในปี 2020 และทาง MONOWHEEL นำเข้ามาจำหน่ายเป็นเจ้าเดียวในไทย ถือว่าเป็นโปรดักส์น้องใหม่ล่าสุดครับ
ในเรื่องของสเปคเจ้า Ninebot S ต้องขอบอกเลยว่าแทบจะเทียบเท่ารุ่นพี่อย่าง miniPRO เลยก็ว่าได้ ต่างกันในเรื่องของความเร็วกับระยะทางเพียงเล็กน้อยเท่านั้นซึ่ง Ninebot S ทำความเร็วได้สูง 16 กม/ชม. และยังวิ่งได้ไกลถึง 22 กม./ชาร์จ ส่วนเรื่องที่เหมือน miniPRO คือล้อเป็นล้อยางลมขนาด 10.5 นิ้วและสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัมครับ
ข้อควรระวังครับทุกคน
ในท้องตลาดมีโฮเวอร์บอร์ดหลายรุ่นที่มีหน้าตาเหมือนกับเจ้า Ninebot S ไม่ว่าจะเป็น Ninebot miniLITE ซึ่งข้อแตกต่างที่สามารถสังเกตได้คือบริเวณที่เหยียบของ miniLITE จะเรียบไปเลยไม่มีที่กั้นระหว่างเท้าครับ และยังมี Ninebot mini กับ Xiaomi mini ซึ่งหน้าตาจะเหมือนตัว Ninebot S เป๊ะๆ ไม่มีทางแยกออก วิธีเดียวที่แยกได้คือต้องอ่านสเปคครับ…ฮาๆ แต่ไม่ต้องห่วงครับเราสรุปข้อเเตกต่างหลักๆมาให้แล้วครับ
กำลังของมอเตอร์
Ninebot S กำลังของมอเตอร์จะอยู่ที่ 800 วัตต์และสูงสุดอยู่ที่ 1600 วัตต์ครับ ส่วนตัว Ninebot miniLITE , Ninebot mini และ Xiaomi mini กำลังของมอเตอร์จะอยู่ที่ 700 วัตต์และสูงสุดอยู่ที่ 1400 วัตต์เท่านั้นครับ
มาตรฐาน UL
แน่นอนว่า Ninebot S นั้นผ่านมาตรฐาน UL แน่นอนครับ ส่วน Xiaomi mini การรับรองมาตรฐาน UL ครับ
สรุปครับ
การที่จะเป็น Ninebot S ขนาดของมอเตอร์ต้องมีกำลัง 800 วัตต์สูงสุดที่ 1600 วัตต์ และต้องผ่านมาตรฐาน UL เท่านั้นนะครับทุกๆท่าน
Ninebot miniPRO พี่ใหญ่แห่งวงการโฮเวอร์บอร์ด
miniPRO เป็นโฮเวอร์บอร์ดไฟฟ้าจากทาง Segway ที่เป็นผู้นำด้านการผลิตยานพาหนะแบบสองล้อไฟฟ้ามายาวนากว่า 25 ปี การันตีในเรื่องของระบบปฏิบัติการของตัวเครื่องที่จะทำให้ผู้เล่นเริ่มเล่นได้ง่าย มีความคล่องตัวและได้รับประสบการณ์ที่ดีกับ miniPRO ซึ่งชื่อของตัว miniPRO จะถูกแบ่งเป็น 2 ชื่อคือ Ninebot miniPRO หรือ Ninebot S-PRO ยังไม่พอครับ เจ้า miniPRO ยังถูกแบ่งเป็นอีก 2 รุ่นคือ รุ่น miniPRO 280 และ miniPRO 320 และรุ่นที่ทาง MONOWHEEL นำเข้ามาจะเป็น miniPRO 320 นั่นเองครับ
สเปคคร่าวๆของ miniPRO ก็จะมีเรื่องของมอเตอร์คู่ที่มีขนาดใหญ่และมีพละกำลังสูงสุดถึง 1600 watt ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 18 กม/ชม. วิ่งได้ไกลสุด 25 กม./ชาร์จ ล้อจะเป็นล้อยางลม 10.5 นิ้วและรับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม
“จากที่เล่าไปเป็นเพียงสเปคคร่าวๆเท่านั้น ต่อไปเรามาฟังข้อมูลแบบเจาะลึกกันเลยดีกว่า…”
ความลับของเเบตเตอรี่ที่หลายคนไม่รู้…
เนื่องจากโฮเวอร์บอร์ดในท้องตลาดส่วนใหญ่มีข่าวไฟไหม้ค่อนข้างบ่อย เพราะแบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MONOWHEEL Duo 2R, Ninebot S และ miniPRO อย่างเเน่นอนครับ เพราะว่าโฮเวอร์บอร์ดทั้ง 3 รุ่นผ่านมาตรฐาน UL ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ในระดับสากล ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 100 ปี
ยกตัวอย่างหนึ่งในข้อกำหนดของมาตรฐาน UL คือตัวเเบตเตอรรี่ต้องอยู่ในกล่องกันไฟที่มีคุณภาพ ซึ่งต่างจากแบตเตอรี่ทั่วไปที่เป็นก้อนแบตเตอรี่ถูกพันด้วยฟิล์มธรรมดาครับ ฉะนั้นขอย้ำว่า โฮเวอร์บอร์ด ทั้ง 3 รุ่นที่ทาง MONOWHEEL จัดจำหน่ายผ่านมาตรฐาน UL ปลอดภัยหายห่วงครับ
มาในเรื่องของการใช้งานกันบ้าง
การขับขี่ฝ่าอุปสรรคบนพื้นถนน…
แน่นอนครับว่าการที่จะซื้อโฮเวอร์บอร์ด ต้องคำนึงถึงพื้นผิวเป็นสำคัญว่าหากเจอพื้นที่ผิวขรุขระจะสามารถเล่นได้หรือไม่ ขอสังเกตง่ายๆสำหรับการซื้อสินค้าประเภทนี้คือ ล้อยิ่งใหญ่ยิ่งผ่านอุปสรรคได้ง่ายครับ อุปสรรคพื้นถนนในไทยก็อย่างที่รู้ๆกันครับไม่ว่าจะเป็นพื้นต่างระดับ พื้นขรุขระ การขึ้นลูกระนาดหรือการผ่านท่อ pvc เล็กๆ จากที่กล่าวมาทั้งหมดตัว MONOWHEEL Duo 2R จะทำได้ไม่ดีเท่า miniPRO และ Ninebt S ครับเนื่องจากมีวงล้อขนาดเล็กการจะข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆจึงทำได้ยากกว่า
ขนาดล้อก็จะมีความแตกต่างกันดังนี้ครับ
- MONOWHEEL Duo 2R ล้อยางตันขนาด 6 นิ้ว
- Ninebot miniPRO: ล้อยางลมขนาด 10.5 นิ้ว
- Ninebot S: ล้อยางลมขนาด 10.5 นิ้ว
การขึ้นเนินทางลาดทางชัน ตัวไหนไหวตัวไหนไม่ไหว
ความสามารถในการขึ้นเนินนั้นขึ้นอยู่กับ กำลังวัตต์ของมอเตอร์และน้ำหนักของผู้เล่นฉะนั้นความสามารถในการขึ้นทางลาดทางชันของ Duo 2R นั้นจะมีความยากอยู่ในระดับนึง ส่วนตัว Ninebot S และ miniPRO สามารถขึ้นทางลาดชันได้ไม่มีปัญหาครับ ซึ่งแต่ละรุ่นมีตวามแตกต่างกันดังนี้ครับ
- MONOWHEEL Duo 2R กำลังมอเตอร์รวม 500 วัตต์ รับน้ำหนักได้สูงสุด 80 กิโลกรัม
- Ninebot S กำลังมอเตอร์รวม 800 วัตต์สูงสุด 1600 วัตต์ รับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม
- Ninebot miniPRO กำลังมอเตอร์รวม 800 วัตต์สูงสุด 1600 วัตต์ รับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม
ฝึกเริ่มเล่นกับตัวไหนง่ายกว่ากันนะ?
ความยากในการฝึกเริ่มเล่นขึ้นอยู่กับขนาดของมอเตอร์ การที่มอเตอร์มีกำลังเยอะมันจะช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น เมื่อขึ้นไปยืนทรงตัวเราจะสามารถรักษาสมดุลให้ตัวของผู้เล่นตั้งฉากกับพื้นได้ดีกว่าตัวที่มีน้ำหนักเบาครับโดย…
- MONOWHEEL Duo 2R มอเตอร์ที่ล้อมีกำลังข้างละ 250 วัตต์รวม 2 ข้างก็มีกำลังมอเตอร์สูงถึง 500 วัตต์ ตัวเครื่องหนัก 8 กิโลกรัม
- Ninebot S มอเตอร์ที่ล้อมีกำลังข้างละ 400 วัตต์รวม 2 ข้างก็มีกำลังมอเตอร์สูงถึง 800 วัตต์ตัวเครื่องหนัก 12.5 กิโลกรัม
- Ninebot miniPRO มอเตอร์ที่ล้อมีกำลังข้างละ 400 วัตต์รวม 2 ข้างก็มีกำลังมอเตอร์สูงถึง 800 วัตต์ตัวเครื่องหนัก 12.5 กิโลกรัม ตัวเครื่องหนัก 12.5 กิโลกรัม
จากกำลังของตัวเครื่องตัว Duo 2R จะฝึกเล่นได้ยากที่สุดครับ มากไปกว่านั้น miniPRO และ Ninebot S ยังมี beginner mode เป็นโหมดสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นเป็นครั้งแรกทำให้การเล่นนั้นง่ายขึ้นไปอีก (แอดใช้เวลาฝึกแค่ 5 นาทีเท่านั้นก็เล่นไปเฉยเลยครับฮาๆ)
ฟีเจอร์ลับที่หลายคนมองข้าม
การเชื่อมต่อ application miniPRO และ Ninebot S สามารถต่อแอพพลิเคชั่นได้โดยที่รายละเอียด ในแอพพลิเคชั่นจะมีความเหมือนกัน ทั้งในเรื่องการควบคุมตัวเครื่อง, การเปลี่ยนสีไฟ, การล็อคเครื่อง หรือการแสดงข้อมูลของตัวเครื่องว่าใช้ไปแล้วกี่กิโลเมตรก็สามารถดูได้ผ่านแอพพลิเคชั่นโดยตรง ส่วน Duo 2R ไม่สามารถต่อแอพพลิเคชั่นได้
Smart LED light หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของโฮเวอร์บอร์ด ก็คือในเรื่องของไฟ ขอบอกเลยว่าทั้ง miniPRO และ Ninebot S ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่จะเป็นในเรื่องของไฟหน้าที่สามารถเปิดเองได้ในที่ที่มีแสงน้อยและปิดเองเมื่ออยู่ในที่สว่างผ่านการทำงานของเซนเซอร์ทที่อยู่บริเวณด้านหน้าขแงตัวเครื่อง ไฟเบรกด้านหลังทำงานทันทีเมื่อมีการชะลอความเร็ว และในเรื่องไฟเลี้ยวก็ตอบสนองได้อย่างฉับไวเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางของตัวเครื่องครับ…เจ๋งสุดๆ
ก้านควบคุมทิศทาง จะสังเกตได้ว่าทั้งตัว miniPRO และ Ninebot S จะมีก้านอยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางของตัวเครื่อง เอาไว้ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางผ่านการออกเเรงผลักตรงบริเวณก้านควบคุม จะไม่เหมือนตัว Duo 2R ที่จะอาศัยการบิดข้อเท้าในการควบคุมทิศทาง ซึ่งแน่นอนว่าการควบคุมจะทำได้อยากกว่า miniPRO และ Ninebot S ครับ
ความต่างของตัวก้านควบคุมของ miniPRO กับ Ninebot S จะมีอยู่ 3 ข้อ
การปรับระดับ
ก้านของตัว miniPRO จะสามารถปรับระดับความสูงได้ซึงมีประโยชน์สำหรับผู้เล่น ว่าต้องการให้ความสูงของก้านอยู่ประมาณไหนถึงจะเหมาะสมกับผู้เล่นมากที่สุด จะต่างกับ Ninebot S ที่ไม่สารถปรับระดับได้
การถอด
การถอดก้านของ miniPRO จะเป็นแบบ quick release คือสามารถดึงออกได้เลยจะต่างกับตัว Ninebot S ที่ต้องใช้ประเเจขันออกฉะนั้นการถอดจะทำได้ยากกว่านั่นเองครับ ซึ่งกรณีนี้จะสะดวกมากสำหรับคนที่ต้องการนำไปใส่ท้ายรถหรือจะต่อเข้ากับโกคาร์ท เจ้า miniPRO ก็จะทำได้สะดวกรวดเร็วกว่า Ninebot S
บาร์ลาก
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญก็คือ บริเวณด้านบนตัวก้านของ miniPRO จะมีบาร์ลากที่สามารถยืดขึ้นมาได้ ทำให้เวลาไปสถานที่ที่ไม่สามารถเล่นได้เราสามารถลากตัวเครื่อไปกับเราได้ง่ายๆเหมือนลากกระเป๋า จะต่างกับเจ้า Ninebot S ก็คือถ้าไม่ก้มลงไปเข็นก็ต้องแบกเท่านั้นครับ…ร้องไห้
ประกอบร่างเป็นโกคาร์ทได้ไหม?
โฮเวอร์บอร์ดทั้ง 3 รุ่นสามารถต่อเล่นเป็นโกคาร์ทไฟฟ้าได้ครับ แต่ตัวที่จะไม่เหมือนเพื่อนเลยก็คือเจ้า Duo 2R เพราะเวลานำไปต่อเข้ากับชุดโกคาร์ท (MONOWHEEL Gokart) เเล้ว กลไกการทำงานจะเป็นการหลอกตัว Duo 2R ว่ามีน้ำหนักถ่ายเทไปที่ตัวเครื่องทำให้ตัวเครื่องนั้นวิ่งหรือถอยหลังได้ จะต่างกับ miniPRO และ Ninebot S ที่จะต้องเชื่อมต่อกับชุด Ninebot Gokart Kit ในเรื่องของกลไกการทำงาน Ninebot Gokart Kit จะทำงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ทำให้การตอบสนองในเรื่องของอัตราเร่ง,การเลี้ยวและการเบรกทำได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับตัว MONOWHEEL Duo 2R ครับ
ในเรื่องของความเร็ว
- MONOWHEEL Gokart ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 15 กม/ชม. (ขึ้นอยู่กับโฮเวอร์บอร์ดแต่ละรุ่น)
- Ninebot Gokart Kit + miniPRO ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 27 กม/ชม.
- Ninebot Gokart Kit + Ninebot S ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 24 กม/ชม.
สรุปภาพรวม
จบไปแล้วกับรีวิวเปรียบเทียบโฮเวอร์บอร์ดทั้ง 3 รุ่นกับ MONOWHEEL Duo 2R, miniPRO และ Ninebot S ซึ่งเป็นโฮเวอร์บอร์ดยอดฮิตในปี 2020 จะเห็นว่าทั้ง 3 รุ่น จะมีฟีเจอร์และข้อดีข้อเสียเเตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานพึงพอใจกับการใช้งานแบบไหน ใครที่ต้องการเอาไปเล่นเป็นโฮเวอร์บอร์ดแบบชิลๆบนพื้นเรียบๆ พกพาง่ายก็เเนะนำเป็นตัว Duo 2R ครับแต่ถ้าใครอยากเอาไปเน้นเล่นแบบลุยๆต่อกับโกคาร์ทได้ก็เเนะทำเป็นตัว miniPRO หรือ Ninebot S แทนครับ
ดูรีวิวเพิ่มเติม
- Unbox Ninebot Gokart Kit ดูเลย
- Unbox Ninebot Gokart Kit พร้อมคู่หูใหม่ Ninebot S ดูเลย
- beartai review Ninebot Gokart Kit ดูเลย
ดูสินค้าตัวอื่นเพิ่มเติมได้ที่ www.monowheei.bike